Facebook หมอชาวบ้าน Youtube หมอชาวบ้าน


โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

< กลับหน้าหลัก

5 เทคนิคฟิตหุ่น เพื่อสุขภาพที่ดีของชาวออฟฟิศ


หมวดหมู่หลัก: ฟรีแลนซ์

หมวดหมู่ย่อย: อื่นๆ

31-01-2023 08:38

ชีวิตของคนวัยทำงานในปัจจุบันอยู่กับความเร่งรีบ ไม่จะเป็นเรื่องการเดินทาง การรีบทำงานให้ทันกำหนดส่ง ความเครียดจากการประชุมต่าง ๆ อีกทั้งยังต้องดูแลตัวเองในยุคโควิด บางคนแทบไม่มีเวลาดูแลตัวเอง จนทำให้ขาดสารอาหารบางตัว หรือได้รับพลังงานส่วนเกินได้ ที่สำคัญคือไม่สามารถจัดสรรเวลาแม้แต่จะออกกำลังกายหรือพักผ่อนให้เพียงพอ ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา และนี่คือ 5 เทคนิคง่ายๆ ที่จะทำให้สุขภาพของคนวัยทำงานดีขึ้นกว่าเดิม

ภาพประกอบเคส

ชีวิตของคนวัยทำงานในปัจจุบันอยู่กับความเร่งรีบ ไม่จะเป็นเรื่องการเดินทาง การรีบทำงานให้ทันกำหนดส่ง ความเครียดจากการประชุมต่าง ๆ อีกทั้งยังต้องดูแลตัวเองในยุคโควิด บางคนแทบไม่มีเวลาดูแลตัวเอง จนทำให้ขาดสารอาหารบางตัว หรือได้รับพลังงานส่วนเกินได้ ที่สำคัญคือไม่สามารถจัดสรรเวลาแม้แต่จะออกกำลังกายหรือพักผ่อนให้เพียงพอ ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา และนี่คือ 5 เทคนิคง่ายๆ ที่จะทำให้สุขภาพของคนวัยทำงานดีขึ้นกว่าเดิม

1. กินอาหารให้ครบมื้อ และที่สำคัญอย่าลืมมื้อเช้า
โดยทั่วไปแล้วคนวัยทำงานจะมีความต้องการพลังงานอยู่ที่ 1,800 – 2,000 กิโลแคลอรี ต่อวัน โดยแบ่งกระจายไปตามมื้อต่างๆ ทั้งมื้อหลักและมื้อว่าง จากการศึกษาจะพบว่าหากมีการอดอาหารมื้อเช้าจะทำให้ร่างกายไม่พร้อมต่อการทำงาน เช่น สมองเบลอ ไม่มีสมาธิในการทำงานจากความรู้สึกหิว ส่งผลต่อเนื่องให้การเลือกกินอาหารในมื้อกลางวันนั้นไม่ดีต่อสุขภาพตามไปด้วย

2. กินมื้อเที่ยงแบบไม่อ้วน
หลักการเลือกกินอาหารเที่ยงให้ดีต่อสุขภาพง่ายๆ คือ ลด หวาน มัน เค็ม หรือควบคู่ไปกับการกินอาหารตามหลักจานสุขภาพแบบง่ายๆ ที่เรียกว่า 2 1 1 โดยการแบ่งจานอาหารหรือกินอาหารให้มีผักเป็นครึ่งหนึ่งของจาน มีเนื้อสัตว์ และข้าว-แป้งอีกอย่างละ 1 ใน 4 ของจานนั่นเอง ควบคู่กับการสั่งอาหารโดยปรับเปลี่ยนให้ดีต่อสุขภาพ เช่น การเปลี่ยนจากไข่เจียวเป็นไข่ต้ม เลือกหมูชิ้นไม่ติดมันแทบหมูสับ เลือกเมนูเนื้อสัตว์ไม่ติดหนัง หรือเลือกเมนูที่ใช้การต้ม นึ่ง ยำ ย่าง แทนการผัดและทอด เป็นต้น

3. ดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 8 แก้ว
การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวันจะช่วยให้ช่วยส่งเสริมด้านความจำ, อารมณ์ และการทำงานของสมอง รวมไปถึงช่วยลดความเครียดลงได้ ในทางตรงข้าม หากเราดื่มน้ำไม่เพียงพอจะทำให้สมองกระตุ้นการสร้าง ฮอร์โมนคอร์ติซอล ที่จะทำให้เกิดความเครียดมากขึ้น และจากการศึกษายังค้นพบอีกว่าหากดื่มน้ำเพิ่มประมาณ 1 แก้วใหญ่ (300 มิลลิลิตร) จะมีส่วนช่วยในเรื่องความจำระยะสั้นได้อีกด้วย และพบว่าหากดื่มน้ำมากขึ้นเป็นวันละ 12 แก้ว ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการตอบสนองของร่างกาย ความจำระยะสั้นและจิตใจ คนที่ดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะมีอารมณ์และการนอนหลับที่ดี อีกทั้งน้ำยังมีส่วนช่วยป้องกันท้องผูกได้อีกด้วย

ดังนั้นคนวัยทำงานอย่าลืมดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้ว หรือ 1.5 ลิตรต่อวัน โดยอาจพกน้ำขวดใหญ่และจิบไปเรื่อย ๆ ตลอดวัน หรือตั้งนาฬิกาเตือนให้หมั่นดื่มน้ำในทุกๆ ชั่วโมง โดยดื่มน้ำเปล่าก็จะดีที่สุด

4. ถ้าต้องยิงยาว หาอะไรรองท้องสักหน่อย
สำหรับคนวัยทำงานที่มีงานด่วนทำให้ต้องเลิกงานช้า หรือติดประชุมจนค่ำ อาจจะมีอาการหิวมาก ๆ ในช่วงเย็น ซึ่งจะส่งผลทำให้กินอาหารมากกว่าปกติ ดังนั้นถ้าหากรู้ว่าตัวเองต้องมีประชุมหรือต้องทำงานยิงยาวกว่าปกติ อาจเตรียมของว่างที่ดีต่อสุขภาพและยังช่วยแก้หิวได้ เช่น เครื่องดื่มธัญพืช ผลไม้รสหวานน้อย นม ผลิตภัณฑ์จากนม นมถั่วต่าง ๆ เป็นต้น

5. พักเบรกเคลื่อนไหว คลายปวดเมื่อย
การนั่งพิมพ์งานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน ไม่ค่อยได้ขยับตัวไปไหน และยังต้องเพ่งสายตาไปที่หน้าจอจนอาจทำให้รู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายหรือสายตาล้าได้ ดังนั้นควรขยับร่างกายหรือยืดเส้นยืดสาย เช่น ท่ายืดไหล่ และถ้าหากรู้สึกตาล้าก็สามารถมองออกไปที่ท้องฟ้าไกล หรือเดินไปพูดคุยกับสมาชิกครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน เพื่อเป็นการบริหารจัดการอารมณ์ไม่ให้เครียดและกดดันมากเกินไป อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มการเคลื่อนไหวในกิจวัตรประจำวันอีกด้วย

แม้คนวัยทำงานจะยุ่งจนรู้สึกว่าไม่มีเวลาว่าง แต่อย่าลืมให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพด้วย และด้วยเทคนิค 5 ข้อนี้น่าจะช่วยให้คนวัยทำงานหลายๆ คนสามารถดูแลสุขภาพได้ในชีวิตประจำวันได้แบบง่าย ๆ และอย่าลืมออกกำลังกายควบคู่กับการเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และคอยบริหารอารมณ์ให้สดใสในทุกๆ วันด้วย เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มต้นได้ที่ตัวของเรา

ที่มา : สสส.
https://www.thaihealth.or.th/?p=326207


สอบถาม
เพิ่มเติมกับ
แชทบอท