Facebook หมอชาวบ้าน Youtube หมอชาวบ้าน


โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

< กลับหน้าหลัก

การกำจัด ATK อย่างถูกวิธี


หมวดหมู่หลัก: ดูแลตัวเองและครอบครัว

หมวดหมู่ย่อย: อื่นๆ

14-03-2022 12:52

จากการที่กระทรวงสาธารณสุข อนุมัติให้ประชาชนสามารถซื้อชุด ATK ใช้ตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเองได้นั้น ชุดตรวจโควิด-19 ที่นำมาตรวจแล้ว จะกลายเป็นขยะทั่วไปและขยะติดเชื้อจากครัวเรือน เช่น ตลับทดสอบ หลอดใส่น้ำยา ฝาหลอดหยด ไม้ Swap รวมถึงเอกสารกำกับชุดตรวจ และกล่องบรรจุภัณฑ์

ภาพประกอบเคส

จากการที่กระทรวงสาธารณสุข อนุมัติให้ประชาชนสามารถซื้อชุด ATK ใช้ตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเองได้นั้น ชุดตรวจโควิด-19 ที่นำมาตรวจแล้ว จะกลายเป็นขยะทั่วไปและขยะติดเชื้อจากครัวเรือน เช่น ตลับทดสอบ หลอดใส่น้ำยา ฝาหลอดหยด ไม้ Swap รวมถึงเอกสารกำกับชุดตรวจ และกล่องบรรจุภัณฑ์

โดยชุดตรวจ ATK ที่ใช้แล้ว ถือเป็นขยะที่มีความเสี่ยง ต่อการแพร่กระจายเชื้อโรคต่อผู้จัดเก็บขยะได้

ภายหลังการตรวจเชื้อด้วย Antigen Test Kit หรือชุดตรวจโควิด-19 ให้คัดแยกขยะออกเป็น 2 ประเภท คือ

1) ขยะที่ไม่ได้ปนเปื้อนน้ำมูก น้ำลาย หรือสารคัดหลั่งที่ใช้ทดสอบ เช่น เอกสารกำกับชุดตรวจ และกล่องบรรจุภัณฑ์ ขยะประเภทนี้ให้เก็บรวบรวมทิ้งถังขยะทั่วไปที่มีฝาปิดมิดชิดได้เลย

2) ขยะที่ปนเปื้อนน้ำมูก น้ำลาย หรือสารคัดหลั่งที่ใช้ทดสอบ เช่น ตลับหรือแผ่นทดสอบ หลอดใส่น้ำยา ฝาหลอดหยด ไม้ Swap ขยะประเภทนี้ถือเป็นขยะที่มีความเสี่ยงสูง ต้องแยกจัดการจากขยะทั่วไป เพราะมีโอกาสแพร่กระจายเชื้อโรคได้

การกำจัด ATK อย่างถูกวิธี เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค มีแนวทางการจัดการ 2 กรณี ได้แก่

1) กรณีในพื้นที่หรือชุมชนมีระบบการเก็บขนขยะติดเชื้อ

  • ให้เก็บรวบรวมขยะติดเชื้อเป็นประจำทุกวัน ใส่ถุงขยะสีแดง 2 ชั้น โดยถุงชั้นแรกที่สัมผัสขยะติดเชื้อ มัดปากถุงด้วยเชือกให้แน่น แล้วฉีดพ่นบริเวณปากถุงด้วยสารฆ่าเชื้อ เช่น สารโซเดียมไฮโปคลอไรท์ 5,000 ppm หรือเตรียมจากน้ำยาฟอกขาว ผสมน้ำอัตราส่วน 1 : 10 หรือแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ มัดปากถุงชั้นนอกด้วยเชือกให้แน่น และฉีดพ่นบริเวณปากถุงด้วยสารฆ่าเชื้ออีกครั้ง แล้วเคลื่อนย้ายไปไว้ยังจุดพักขยะที่จัดไว้เฉพาะ
  • ประสานไปยังหน่วยงานที่ทำหน้าที่ให้บริการเก็บ ขน ขยะติดเชื้อในพื้นที่ เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อกำหนดวิธีการนำขยะติดเชื้อไปกำจัดอย่างถูกต้องต่อไป

2) กรณีในพื้นที่หรือชุมชนไม่มีระบบการเก็บขนขยะติดเชื้อ หรือระบบการเก็บขนขยะติดเชื้อเข้าไม่ถึง

  • ให้เก็บรวบรวมและทำลายเชื้อ โดยใส่ถุงขยะ 2 ชั้น ถุงใบแรกที่บรรจุขยะติดเชื้อแล้วให้ราดด้วยสารฆ่าเชื้อ หรือน้ำยาฟอกขาว เช่น ไฮเตอร์ จากนั้นมัดปากถุงให้แน่นแล้วฉีดพ่นบริเวณปากถุงด้วยสารฆ่าเชื้อ เช่น สารโซเดียมไฮโปคลอไรท์ 5,000 ppm หรือเตรียมจากไฮเตอร์ผสมน้ำอัตราส่วน 1 : 10 หรือแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ ซ้อนด้วยถุงขยะอีก 1 ชั้น มัดปากถุงชั้นนอกด้วยเชือกให้แน่น และฉีดพ่นด้วยสารฆ่าเชื้อบริเวณปากถุงอีกครั้ง
  • ขยะที่ผ่านการทำลายเชื้อแล้ว ให้ประสานและนำส่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ นำไปกำจัดเป็นขยะทั่วไป ทั้งนี้ ภายหลังจัดการขยะติดเชื้อแล้ว ต้องล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ทันที

ที่มา : กรมอนามัย
https://bit.ly/3GVsB2E


สอบถาม
เพิ่มเติมกับ
แชทบอท