Facebook หมอชาวบ้าน Youtube หมอชาวบ้าน


โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

< กลับหน้าหลัก

การเลือกชนิดของน้ำเกลือแร่สำหรับท้องเสีย


หมวดหมู่หลัก: ดูแลตัวเองและครอบครัว

หมวดหมู่ย่อย: เจ็บป่วยทั่วไป

30-11-2022 13:37

น้ำเกลือแร่สำหรับท้องเสียต้องมีสัดส่วนของเกลือแร่ต่าง ๆ ที่เหมาะสม โดยส่วนมากผู้ที่ท้องเสียต้องผสมน้ำเกลือแร่ด้วยตนเองจากผงเกลือแร่ซึ่งบรรจุในซองสำเร็จรูปที่เรียกว่า “โออาร์เอส หรือ ORS (Oral Rehydration Salts)” ซึ่งจัดเป็นยาสามัญประจำบ้านและมีจำหน่ายทั่วไปที่ร้านยารวมทั้งร้านสะดวกซื้อ

ภาพประกอบเคส

น้ำเกลือแร่สำหรับท้องเสียต้องมีสัดส่วนของเกลือแร่ต่าง ๆ ที่เหมาะสม โดยส่วนมากผู้ที่ท้องเสียต้องผสมน้ำเกลือแร่ด้วยตนเองจากผงเกลือแร่ซึ่งบรรจุในซองสำเร็จรูปที่เรียกว่า “โออาร์เอส หรือ ORS (Oral Rehydration Salts)” ซึ่งจัดเป็นยาสามัญประจำบ้านและมีจำหน่ายทั่วไปที่ร้านยารวมทั้งร้านสะดวกซื้อ

โดย โออาร์เอส กับ ผงเกลือแร่สำหรับผู้ที่เสียเหงื่อจากการออกกำลังกาย ทั้งสองชนิดมีความแตกต่างกัน เนื่องจากผงเกลือแร่สำหรับผู้ที่เสียเหงื่อจากการออกกำลังกายมักมีปริมาณน้ำตาลสูงกว่าโออาร์เอส และอาจทำให้ผู้ที่ท้องเสียถ่ายเหลวมากกว่าเดิมก็เป็นได้ ดังนั้นผู้ที่ท้องเสียจึงควรดื่มน้ำเกลือแร่ที่ผสมจากโออาร์เอสเท่านั้น

การผสมน้ำเกลือแร่สำหรับท้องเสีย

โออาร์เอสสามารถผสมเป็นน้ำเกลือแร่สำหรับท้องเสียได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. เตรียมน้ำเปล่าสำหรับดื่มที่สะอาด ไม่มีเชื้อโรคปนเปื้อน อาจเป็นน้ำต้มสุกที่เย็นแล้วก็ได้ ห้ามผสมโออาร์เอสกับเครื่องดื่มใด ๆ นอกจากน้ำเปล่า
  2. เทโออาร์เอสทั้งซองในน้ำดื่มสะอาดตามปริมาตรที่ระบุบนซอง หากผสมด้วยปริมาตรที่ผิดไปจากที่ระบุอาจทำให้ได้น้ำเกลือแร่ที่มีความเข้มข้นไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตามปริมาตรที่ใช้ผสมอาจมากหรือน้อยไปจากที่ระบุได้บ้างหากไม่มีภาชนะในการตวง
  3. ผสมโออาร์เอสกับน้ำดื่มให้เข้ากันดีด้วยการคนหรือเขย่าจนสังเกตว่าไม่มีผงยาเหลืออยู่ อย่าลืมคำนึงถึงความสะอาดของน้ำดื่มและภาชนะต่าง ๆ ในขั้นตอนการผสม
  4. ควรผสมโออาร์เอสครั้งละซองและผสมใหม่เมื่อดื่มของเก่าหมด ไม่ควรเก็บน้ำเกลือแร่ที่ดื่มไม่หมดไว้เกิน 24 ชั่วโมง รวมทั้งควรเก็บรักษาน้ำเกลือแร่ที่ผสมแล้วในภาชนะที่ปิดสนิทเพื่อลดโอกาสในการปนเปื้อน

วิธีการดื่มน้ำเกลือแร่เมื่อท้องเสีย

ผู้ที่ท้องเสียควรดื่มน้ำเกลือแร่ที่ผสมจากโออาร์เอสโดยใช้หลักการดังนี้

  1. ค่อย ๆ จิบ ไม่ดื่มรวดเดียว เนื่องจากการดื่มหมดในคราวเดียวอาจทำให้ลำไส้แปรปรวนและท้องเสียมากกว่าเดิม
  2. ให้จิบเรื่อย ๆ จนไม่รู้สึกกระหายน้ำ ความรู้สึกกระหายน้ำเป็นสัญญาณที่บอกได้คร่าว ๆ ว่าร่างกายมีภาวะขาดน้ำหรือไม่
  3. หากอาเจียน ไม่ควรดื่มต่อโดยทันทีเพราะอาจกระตุ้นให้อาเจียนซ้ำ ควรรอประมาณ 10 นาที จึงค่อยดื่มใหม่
  4. ให้หยุดดื่มน้ำเกลือแร่เมื่อหายจากอาการท้องเสีย โดยกลับมาดื่มน้ำเปล่าและรับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัยอย่างเพียงพอตามปกติ ไม่ควรรับประทานน้ำเกลือแร่เป็นระยะเวลานานหากไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์

ข้อควรรู้อื่น ๆ

มีความเชื่อที่บอกต่อ ๆ กันมากมายเกี่ยวกับชนิด การผสม และการดื่มน้ำเกลือแร่สำหรับท้องเสีย ซึ่งข้อเท็จจริงมีดังนี้

  1. ผู้ที่ท้องเสียสามารถดื่มน้ำเกลือแร่สำหรับท้องเสียชนิดพร้อมดื่ม (ไม่ต้องผสมเอง) ซึ่งได้รับจากสถานพยาบาลหรือร้านยาได้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีน้ำเกลือแร่สำหรับท้องเสียชนิดพร้อมดื่มจำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อ
  2. น้ำแร่ (mineral water) คือ น้ำดื่มสะอาดที่ได้รับการเติมแร่ธาตุบางชนิดลงไปในปริมาณน้อย ๆ ไม่ใช่น้ำเกลือแร่สำหรับท้องเสีย
  3. หากมีความจำเป็นและไม่สามารถจัดหาโออาร์เอสได้ อาจผสมน้ำเกลือแร่สำหรับท้องเสียเองโดยเติมน้ำตาลทราย 6 ช้อนชาและเกลือครึ่งช้อนชาในน้ำดื่มสะอาด 1 ลิตร (1,000 ซีซี) อย่างไรก็ตามปริมาณของเกลือแร่ที่ได้จะไม่เหมือนกับที่ผสมจากโออาร์เอส
  4. น้ำอัดลมเติมเกลือมีความคล้ายคลึงกับน้ำเกลือแร่สำหรับผู้ที่เสียเหงื่อจากการออกกำลังกายมากกว่าโออาร์เอส จึงไม่แนะนำสำหรับผู้ที่ท้องเสีย

ที่มา : คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
https://www.si.mahidol.ac.th/sirirajdoctor/Infographic_detail.aspx?ID=30


สอบถาม
เพิ่มเติมกับ
แชทบอท