การรักษาโรคเบาหวาน สาเหตุและวิธีแก้ไข
หมวดหมู่หลัก: ดูแลตัวเองและครอบครัว
หมวดหมู่ย่อย: เจ็บป่วยทั่วไป
30-11-2022 13:28
โรคเบาหวาน คือ โรคที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง อาจเกิดจากความผิดปกติของตับอ่อนที่หลั่งฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยกว่าปกติ หรือเกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลินซึ่งพบได้ในโรคอ้วน เราสามารถตรวจเบาหวานได้โดยการตรวจน้ำตาลในเลือดหลังงดอาหารประมาณ 8 ชั่วโมง หากระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่าหรือเท่ากับ 126 มก.ต่อเดซิลิตร หรือตรวจค่าน้ำตาลสะสมได้มากกว่า 6.5% ก็เข้าเกณฑ์ของโรคเบาหวาน
โรคเบาหวาน คือ โรคที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง อาจเกิดจากความผิดปกติของตับอ่อนที่หลั่งฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยกว่าปกติ หรือเกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลินซึ่งพบได้ในโรคอ้วน เราสามารถตรวจเบาหวานได้โดยการตรวจน้ำตาลในเลือดหลังงดอาหารประมาณ 8 ชั่วโมง หากระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่าหรือเท่ากับ 126 มก.ต่อเดซิลิตร หรือตรวจค่าน้ำตาลสะสมได้มากกว่า 6.5% ก็เข้าเกณฑ์ของโรคเบาหวาน
การสังเกตตัวเองว่าเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานหรือไม่
โรคเบาหวานเป็นอีกหนึ่งภัยเงียบที่ไม่ค่อยส่งเสียงหรือแสดงอาการแบบโจ่งแจ้งเท่าไหร่นัก กว่าจะรู้ตัวโรคก็ดำเนินไปมากแล้ว ดังนั้นเราจึงควรตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายด้วยว่ามีอาการต่าง ๆ ที่บ่งชี้ว่าคุณกำลังเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานหรือไม่ ดังนี้
- ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ ยิ่งผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้นเท่านั้น
- รู้สึกกระหายน้ำ เป็นผลต่อเนื่องมาจากการที่ร่างกายเสียน้ำไปจากการที่ปัสสาวะบ่อย
- น้ำหนักลดลง เนื่องจากเมื่อเกิดภาวะขาดอินซูลิน จะทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลที่อยู่ในเลือดไปใช้เป็นพลังงานได้ จึงต้องเอาโปรตีนและไขมันที่สะสมไว้มาใช้แทน
- ตาพร่า ตามัว ในช่วงที่มีน้ำตาลในเลือดสูง เพราะเลนส์ตาเกิดการบวมน้ำ ทำให้ไม่สามารถปรับโฟกัสภาพให้ชัดได้ แต่อาการตาพร่า ตามัวนี้จะเกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น
- ปลายมือปลายเท้าชา เป็นภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาทจากโรคเบาหวาน โดยจะชาจากปลายมือปลายเท้าแล้วค่อย ๆ ชาไล่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ บางรายอาจจะชามากจนรู้สึกปวดได้
แนวทางการดูแลรักษาสุขภาพอย่างไรให้ไกลเบาหวาน
สาเหตุส่วนหนึ่งของการเกิดโรคเบาหวานเกิดจากพฤติกรรมและการใช้ชีวิตเป็นส่วนใหญ่ เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือสุขภาพตัวเองและคนใกล้ตัวให้ห่างไกลจากโรคเบาหวาน ได้นี้
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เริ่มด้วยการดูแลและควบคุมพฤติกรรมการกิน ลดปริมาณของหวานหรืออาหารจำพวกแป้งและคาร์โบไฮเดรตต่าง ๆ ลง เช่น น้ำอัดลม ขนมหวาน เบเกอรี่ เป็นต้น
- รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง อย่างผักใบเขียวให้มากขึ้น รวมถึงควรเลือกรับประทานผลไม้ที่มีรสหวานในปริมาณที่พอเหมาะ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น การเดินเร็ว ปั่นจักรยาน หรือเต้นแอโรบิก ครั้งละประมาณ 30 นาที ให้ได้ 3-5 ครั้ง/สัปดาห์
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่อ้วนเกินไป หรือผอมเกินไป
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ลด ละ หลีกเลี่ยง หรือจำกัดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นอาจมีผลข้างเคียงกับยาที่ใช้รักษาโรคเบาหวาน รวมถึงโรคอื่น ๆ
- งดสูบบุหรี่ ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรงดสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด เพื่อลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ใช้ยาเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หากยังไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ คุณหมอจะใช้ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด มีทั้งยากินและยาฉีด ขึ้นอยู่กับระดับน้ำตาลในเลือดและอาการอื่น ๆ
ที่มา : ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
https://bit.ly/3OEYpOb