Facebook หมอชาวบ้าน Youtube หมอชาวบ้าน


โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

< กลับหน้าหลัก

7 วิธีอยู่ร่วมกับผู้สูงวัยอย่างมีความสุข


หมวดหมู่หลัก: ผู้สูงวัย

หมวดหมู่ย่อย: อื่นๆ

30-11-2022 11:50

การก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดครอบครัวขยายที่มีสมาชิกต่างช่วงวัยมาอยู่ร่วมกันเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่มักเป็นปัญหาตามมาคือ ความไม่เข้าใจและเกิดเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกันด้วยช่องว่างระหว่างวัย

ภาพประกอบเคส

การก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดครอบครัวขยายที่มีสมาชิกต่างช่วงวัยมาอยู่ร่วมกันเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่มักเป็นปัญหาตามมาคือ ความไม่เข้าใจและเกิดเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกันด้วยช่องว่างระหว่างวัย แต่ละช่วงวัยต่างมีคุณลักษณะและคุณค่าที่ยึดถือ ที่ถูกบ่มเพาะจากการเติบโตในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมที่แตกต่างกันตามยุคสมัย รวมถึงพละกำลังและความสมบูรณ์แข็งแรงของทั้งร่างกายและจิตใจที่ไม่เท่ากันจนอาจเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ

การใช้ชีวิตภายในบ้านอย่างราบรื่นและมีความสุขคือสิ่งที่ทุกคนต้องการ โดยเฉพาะการดูแลเอาใจใส่ผู้สูงวัยภายในบ้านซึ่งถือว่าอยู่ในช่วงบั้นปลายของชีวิต การทำความเข้าใจในลักษณะนิสัย ความคิด ทัศนคติและประสบการณ์ที่มีต่อสิ่งต่างๆ ตลอดจนความเสื่อมถอยและเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจของผู้สูงวัยจึงเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ย่อมส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้สึกและการแสดงออกที่มักเต็มไปด้วยความวิตกกังวลและห่วงใยต่อสิ่งต่างๆมากจนทำให้สมาชิกเกิดความรำคาญใจและถอยห่างออกมา

เพื่อให้บรรยากาศภายในครอบครัวที่ประกอบด้วยสมาชิกจากหลากหลายช่วงวัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและ ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำถึง 7 วิธีที่จะทำให้เราสามารถอยู่ร่วมกับผู้สูงวัยภายในครอบครัวได้อย่างมีความสุข สร้างพื้นที่น่าอยู่สำหรับสมาชิกทุกคน ไม่ให้เกิดความรู้สึกแปลกแยกและรู้สึกเหินห่างต่อกัน มีดังนี้

  1. ยอมรับและเข้าใจในความต่าง เนื่องจากผู้สูงวัยเติบโตมาบนพื้นฐานและประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป เมื่อใกล้ชิดกับคนรุ่นใหม่ที่มีลักษณะไม่ตรงกันจึงมักวิตกกังวลและคอยกำชับติดตามให้ทำตามที่ตนเองยึดถือ บ่อยครั้งหลงลืมและพูดย้ำหลายครั้งจนสมาชิกรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว สิ่งที่ทำได้คือ ตอบรับและทำตามคำแนะนำ หากมีส่วนไหนไม่เป็นความจริงก็ควรให้อภัยและปล่อยผ่านไปโดยไม่จำเป็นต้องโต้เถียงจนรู้สึกไม่ดีต่อกัน
  2. มองเห็นคุณค่าและความสำคัญ ผู้สูงวัยส่วนมากที่พ้นจากชีวิตการทำงานแล้วอาจรู้สึกหมดคุณค่าที่ไม่สามารถทำประโยชน์ให้กับใครได้ จนบั่นทอนสภาพจิตใจและส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายตามมา ซึ่งคนในครอบครัวสามารถช่วยได้ด้วยการให้ความสำคัญโดยการขอคำแนะนำ รับฟังความเห็นหรือให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ รวมทั้งแสดงออกต่อกันด้วยความเคารพเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับครอบครัว
  3. ให้ความดูแลเอาใจใส่ สมาชิกในครอบครัวสามารถเพิ่มพูนความรู้สึกและความสัมพันธ์ที่ดีได้โดยการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบและชวนพูดคุยถึงเรื่องต่างๆ คอยดูแลใกล้ชิดไม่ปล่อยให้อยู่โดยลำพัง ดูแลเรื่องอาหารการกิน ความสะอาดและการออกกำลังกาย พาไปตรวจสุขภาพและพบแพทย์ตามนัดหมาย รวมทั้งส่งมอบรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กันเสมอ
  4. นำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ คนรุ่นใหม่ก็สามารถให้คำแนะนำดีๆ กับผู้สูงอายุได้เช่นกัน โดยเฉพาะองค์ความรู้สมัยใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงอยู่เสมอ หรือแม้แต่การใช้เทคโนโลยีเพื่อคลายเงา
  5. สนับสนุนการมีชีวิตที่ดี สนับสนุนให้ผู้สูงวัยได้มีโอกาสริเริ่มทำกิจกรรมใหม่ๆ ที่สร้างความรู้สึกที่ดีและมีคุณค่าต่อทั้งตนเองและผู้อื่น เพื่อไม่ให้จมอยู่กับตัวเอง เรื่องในอดีตหรือกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
  6. ไม่นำปัญหามารบกวนจิตใจ คนในครอบครัวควรดูแลจัดการชีวิตของตัวเองให้ดีเพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุต้องวิตกกังวลและเข้ามายุ่งเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องความขัดแย้งในครอบครัวที่อาจกระทบกระทั่งจนเกิดความไม่พอใจต่อกัน
  7. หมั่นแสดงความรักให้กัน การแสดงความรักในครอบครัวมีหลายวิธีด้วยกัน ตั้งแต่วิธีที่ไม่มีค่าใช้จ่ายและสามารถทำได้ทุกวันอย่างการพูดคุยและบอกรัก การสัมผัสและโอบกอดเป็นประจำ หรือการดูแลเอาใจใส่ในการจัดเตรียมอาหารการกิน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ช่วยอำนวยความสะดวก พาไปท่องเที่ยวหรือทานอาหารในโอกาสพิเศษต่างๆ รวมถึงการทำตัวเป็นลูกหลานที่ดีด้วยการเชื่อฟัง เคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกันเสมอ

หากเลือกได้คงไม่มีใครต้องการให้ความสูงวัยเข้ามาเปลี่ยนแปลงสิ่งดีๆ ที่คุ้นเคยมาตลอด 60 ปีในชีวิต แต่เมื่อไม่มีใครฝืนกฎธรรมชาติข้อนี้ได้ก็เป็นหน้าที่ของคนในครอบครัวที่จะต้องยอมรับและเข้าใจ พยายามที่จะปรับตัวเองเข้าหาความเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะทำให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุข

ที่มา :
1.ผู้จัดการออนไลน์ https://bit.ly/3AQA3v6
2.กรมกิจการผู้สูงอายุ https://bit.ly/3OFWMj0
3.กรมสุขภาพจิต https://bit.ly/3VtT6Dk


สอบถาม
เพิ่มเติมกับ
แชทบอท