ท้องไม่รู้ตัวเกิดขึ้นได้จริงหรือ?

อาการท้องไม่รู้ตัวเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ จากสถิติพบว่าหญิงตั้งครรภ์ 1 ใน 500 ราย ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ จนเมื่อเข้าสู่ช่วง 4-5 เดือนแรก และส่วนใหญ่เกิดจากการที่ฝ่ายหญิงไม่ใส่ใจการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ซึ่งโดยปกติหากประจำเดือนทิ้งช่วงเป็นระยะเวลาหลายเดือน ก็ควรจะเฉลียวใจแล้วว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น อย่าปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นปัญหาสะสม หรือแท้จริงแล้วเป็นการตั้งครรภ์

ปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์โดยไม่รู้ตัว เช่น

• การคุมกำเนิดไม่มีประสิทธิภาพ
• อาการประจำเดือนขาดๆ หายๆ ซึ่งคิดว่าเป็นเรื่องปกติ
• น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ทำให้เข้าใจว่าแค่อ้วน
• เมื่อเด็กในครรภ์ขยับตัวและดิ้นไปมา หญิงบางรายคิดว่าตนเองมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินอาหาร ท้องไส้ปั่นป่วน มีปัญหาด้านลำไส้
• หญิงบางรายไม่มีอาการแพ้ท้อง แต่กลับรับประทานได้ในปริมาณมากกว่าเดิม เป็นส่วนน้อยมากที่ผู้หญิงจะแสดงอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง อีกทั้งอาการแพ้ท้องจะไม่แสดงให้เห็นตลอดทั้ง 9 เดือน แต่จะมีเพียงช่วง 3-4 เดือนแรกเท่านั้น อาการแพ้ท้องต่างๆ ก็จะหายไป

ข้อแนะนำเพื่อป้องกันเหตุการณ์ตั้งครรภ์โดยไม่รู้ตัว

• ต้องหมั่นสังเกตร่างกายของตนเองอย่างสม่ำเสมอ
• หากประจำเดือนไม่มาตามกำหนดภายใน 1-2 สัปดาห์ ควรตรวจด้วยเครื่องตรวจครรภ์ซึ่งสามารถแสดงผลได้ค่อนข้างแม่นย่ำ หรือควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด

อาการที่บอกว่ากำลังตั้งครรภ์ ได้แก่ น้ำหนักขึ้น เวียนศีรษะ ปัสสาวะบ่อย แพ้ท้อง คัดเต้านม หน้าท้องโตขึ้น รู้สึกว่ามีการดิ้นในช่องท้อง ประจำเดือนขาด หิวบ่อย อารมณ์แปรปรวน เป็นต้น ผู้หญิงแต่ละคนจะมีการแสดงอาการที่แตกต่างกัน และมักจะไม่พบในระยะแรกของการเริ่มตั้งครรภ์ บางคนอาจเกิดแค่ 2-3 ข้อ เท่านั้น ดังนั้นการสังเกตร่างกายของตัวเองอยู่เสมอว่าร่างกายของเรามีอะไรผิดปกติหรือเปลี่ยนไปหรือไม่ ประจำเดือนผิดปกติหรือเปล่า รวมถึงมีอาการคล้ายกับคนท้องหรือไม่

สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมตั้งครรภ์วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ ถุงยางอนามัย ซึ่งป้องกันได้ทั้งการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ และป้องกันโรคติดเชื้อรุนแรง หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

ที่มา :
1.dailynews โดย ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ปธ.ราชวิทยาลัยสูติ นรีแพทย์แห่งประเทศไทย https://bit.ly/3g9OB1A
2.Kapok https://baby.kapook.com/view168237.html