Facebook หมอชาวบ้าน Youtube หมอชาวบ้าน


โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

< กลับหน้าหลัก

ฟรีแลนซ์ก็ทำบัญชีเองได้ ง่ายนิดเดียว


หมวดหมู่หลัก: ฟรีแลนซ์

หมวดหมู่ย่อย: อื่นๆ

20-09-2022 14:09

ถ้าคุณเป็นฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ที่ต้องถูกหัก ภาษี ณ ที่จ่าย หรือ เป็นเจ้าของธุรกิจเล็ก ๆ ที่มีรายได้และกำไร ซึ่งนอกจากจะต้องทุ่มเทให้กับการทำงานสร้างรายได้ให้ยั่งยืนแล้ว การทำบัญชีและวางแผนภาษีก็เป็นหน้าที่ที่สำคัญ เพราะหากบริหารจัดการผิดพลาด จะส่งผลต่อความอยู่รอดของชีวิตฟรีแลนซ์หรือธุรกิจของคุณได้

ภาพประกอบเคส

ถ้าคุณเป็นฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ที่ต้องถูกหัก ภาษี ณ ที่จ่าย หรือ เป็นเจ้าของธุรกิจเล็ก ๆ ที่มีรายได้และกำไร ซึ่งนอกจากจะต้องทุ่มเทให้กับการทำงานสร้างรายได้ให้ยั่งยืนแล้ว การทำบัญชีและวางแผนภาษีก็เป็นหน้าที่ที่สำคัญ เพราะหากบริหารจัดการผิดพลาด จะส่งผลต่อความอยู่รอดของชีวิตฟรีแลนซ์หรือธุรกิจของคุณได้

“ประกาศจากอธิบดีกรมสรรพากร ฉบับที่ 161 ลงวันที่ 21 ธ.ค. 2549 ที่ประกาศให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและยังไม่ได้เป็นผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มีหน้าที่ต้องจัดทำบัญชีรายงานแสดงรายได้และค่าใช้จ่ายประจำวัน เพราะการทำบัญชีและภาษีให้ถูกต้องจะช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายได้ โดยเฉพาะถ้ารายได้ของชาวฟรีแลนซ์นั้น เข้าข่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (3), (5), (6), (7), (8) คือ เงินได้จากค่าลิขสิทธิ์ ค่าเช่า วิชาชีพเฉพาะ งานรับเหมา และการทำธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งสามารถเลือกวิธีการหักค่าใช้จ่ายระหว่างการหักแบบเหมากับการหักค่าใช้จ่ายตามจริงได้”

ดังนั้น ถ้าคุณทำบัญชีได้เรียบร้อยดีและเป็นระบบ พร้อมเก็บหลักฐานครบถ้วน ก็จะเลือกใช้วิธีการหักตามจริงได้ ในกรณีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงนั้นสูงกว่าอัตราการหักแบบเหมา ทำให้เงินได้สุทธิที่นำไปคิดอัตราภาษีลดลง คุณก็จะเสียภาษีน้อยลงนั่นเอง

ฟรีแลนซ์มือใหม่ที่อยากวางแผนภาษีให้ตัวเอง
ทำตาม “4 ขั้นตอน ทำบัญชีสำหรับฟรีแลนซ์” ได้เลย

  1. แยกบัญชีธนาคาร ระหว่างบัญชีที่ใช้ประกอบอาชีพกับบัญชีใช้จ่ายส่วนตัว เพื่อให้สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของรายได้และเส้นทางของการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น รวมทั้งสะดวกในการจัดทำบัญชีรับจ่ายและการตรวจสอบข้อมูลเพื่อยื่นสรรพากร
  2. จัดทำรายงานเงินสดรับ-จ่ายประจำวัน จะทำเป็นตารางระบุรายการ รายรับ-รายจ่าย ยอดคงเหลือแบบง่ายๆ ก็ได้
  3. จดรายรับรายจ่ายจริง และ ภาษี ณ ที่จ่ายที่ถูกหักไว้ ทุกรายการต้องเกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบอาชีพหรือกิจการ และมีเอกสารประกอบ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี เป็นต้น อย่าลืม ตรวจสอบเอกสารภาษีหัก ณ ที่จ่าย และต้องเก็บไว้เป็นหลักฐานสำหรับการยื่นภาษีประจำปีด้วย เพราะหากคำนวณภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายไปทั้งหมดสูงกว่าอัตราภาษีที่ต้องจ่ายจริง คุณจะสามารถขอเงินส่วนต่างนั้นคืนได้ หรือในทางกลับกัน หากภาษีหัก ณ ที่จ่ายน้อยกว่าอัตราภาษีที่คำนวณได้ ก็จะได้จ่ายเงินภาษีเพิ่มอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ทันเวลา ไม่เสียค่าปรับ
  4. หากในรอบปีภาษี คุณมีรายได้ตั้งแต่ 1.8 ล้านบาทขึ้นไป จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย ซึ่งก็จะมีข้อกำหนด กฎหมายที่เกี่ยวข้องเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม การออกใบกำกับภาษี และการนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งในส่วนภาษีซื้อและภาษีขายภายในระยะเวลาที่กำหนด ที่เจ้าของกิจการต้องปฏิบัติตามกฎหมายเพิ่มเติม ในกรณีภาษีซื้อที่เกิดจากรายจ่าย หากผู้ประกอบการยังไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม จะสามารถนำมาลงเป็นต้นทุนของสินค้าหรือค่าใช้จ่ายได้ทั้งจำนวน ในกรณีที่มีการทำรายการเป็นเงินเชื่อ ให้บันทึกรายการในวันที่ได้รับชำระหรือวันที่จ่ายชำระสินค้าหรือบริการนั้น โดยอธิบายในช่องหมายเหตุของรายการนั้นและสรุปรายการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน

ที่มา : กลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
https://bit.ly/3xyi6Qi


สอบถาม
เพิ่มเติมกับ
แชทบอท