Facebook หมอชาวบ้าน Youtube หมอชาวบ้าน


โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

< กลับหน้าหลัก

4 ต้อง 2 ไม่ ที่ควรทำเมื่อเด็กชัก


หมวดหมู่หลัก: พ่อแม่มือใหม่

หมวดหมู่ย่อย: เจ็บป่วยทั่วไป

17-09-2022 15:55

การชักจากไข้สูง (Febrile Convulsion) มักจะเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสูงเกิน 39 องศาเซลเซียส พบได้ในเด็กตั้งแต่อายุ 3 เดือน จนถึง 5 ปี แต่ช่วงอายุที่พบบ่อยที่สุด คือ ช่วง 6 เดือน ถึง 3 ปี เพราะสมองของเด็กยังมีการพัฒนาไม่เต็มที่ จึงมีความไวต่อการกระตุ้นจากอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้น โดยจะมีอาการชักเกิดขึ้นในวันแรก หรือวันที่ 2 ของการมีไข้

ภาพประกอบเคส

การชักจากไข้สูง (Febrile Convulsion) มักจะเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสูงเกิน 39 องศาเซลเซียส พบได้ในเด็กตั้งแต่อายุ 3 เดือน จนถึง 5 ปี แต่ช่วงอายุที่พบบ่อยที่สุด คือ ช่วง 6 เดือน ถึง 3 ปี เพราะสมองของเด็กยังมีการพัฒนาไม่เต็มที่ จึงมีความไวต่อการกระตุ้นจากอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้น โดยจะมีอาการชักเกิดขึ้นในวันแรก หรือวันที่ 2 ของการมีไข้

อาการ
เด็กจะเริ่มมีอาการเกร็งทั้งตัว ตาเหลือก กัดฟันและลิ้น อาจเกิดการกระตุกของแขนและขาทั้ง 2 ข้าง ซึ่งจะกินเวลาประมาณ 1–3 นาที ช่วงนั้นอาจมีอาการน้ำลายฟูมปาก ริมฝีปาก และปลายมือปลายเท้ามีสีคล้ำเขียวได้ ลักษณะของอาการชักอาจจะเป็นชักเกร็งทั้งตัวหรือชักเกร็งกระตุกทั้งตัวก็ได้ แต่จะไม่ชักเฉพาะซีกของร่างกาย หรือชักผวากระตุก ในรายที่เด็กชักเป็นเวลานาน หลังจากหยุดชักแล้วเด็กมักจะหลับ หรือมีอาการสะลึมสะลือไปชั่วครู่ แต่กรณีเด็กที่ชักนานกว่า 15 นาที อาจพบอาการผิดปกติทางระบบประสาทตามมา

เมื่อเด็กมีอาการชัก ควรทำอย่างไร

  1. สิ่งแรกและสิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องมีสติ เพื่อที่จะสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้น และรีบพาไปพบแพทย์ที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด
  2. ต้องจับเด็กตะแคงศีรษะไปด้านข้าง ให้ศีรษะอยู่ในระดับต่ำเล็กน้อย เพื่อทำให้ทางเดินหายใจโล่ง ให้น้ำลาย เสมหะ หรือเศษอาหารไหลออกมาได้สะดวก และป้องกันไม่ให้สำลักเข้าไปอุดตันในหลอดลม ที่สำคัญควรระวังเรื่องสภาพแวดล้อมขณะนั้น ควรอยู่บนพื้นราบ ป้องกันไม่ให้ลูกได้รับอันตรายอื่น ๆ จากการตกหรือล้มในขณะชักด้วย
  3. ต้องเช็ดตัวตลอดเวลา โดยใช้ผ้าเช็ดตัวชุบน้ำเช็ดเน้นบริเวณตามข้อพับต่างๆ ของร่างกายทั้งแขนขา และค่อย ๆ เช็ดตัวลูก โดยเช็ดในทิศทางที่ย้อนเข้าหาหัวใจ เพื่อเป็นการเปิดรูขุมขน ให้ความร้อนสามารถระบายออกได้ และควรถอดเสื้อหรือคลายให้หลวม ไม่ควรใช้น้ำเย็น หรือแอลกอฮอล์เช็ดตัว
  4. ระวังอย่าให้ลูกกัดลิ้นตัวเอง ถ้าเด็กกำลังเกร็งและกัดฟันแรงมาก อย่าพยายามงัดปากเด็ก หรือใช้ช้อนกดลิ้น หรือใช้เศษผ้ายัดเข้าไปในปาก เพราะอาจเกิดอันตรายได้ เช่น ฟันหลุดหรือหักและหล่นลงไปอุดหลอดลม ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจน

สำหรับสิ่งที่ไม่ควรทำ

  1. ไม่ควรเขย่าตัวเด็กขณะที่เด็กกำลังชักเกร็ง เพื่อให้เด็กตื่นหรือรู้สึกตัว เพราะจะยิ่งทำให้เด็กชักมากขึ้น
  2. ไม่ควรป้อนสิ่งใดๆ ในขณะที่เด็กกำลังชักเกร็งเข้าทางปากเด็กโดยเด็ดขาด แม้กระทั่งยาลดไข้ เพราะอาจทำให้สำลักได้

เมื่ออาการชักสงบแล้ว รีบพาเด็กไปพบแพทย์ที่ใกล้บ้านที่สุด เพื่อให้คุณหมอทำการตรวจร่างกายของเด็กอย่างละเอียด โดยเฉพาะระบบประสาท และอาจต้องทำการตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ หรือเอ็กซเรย์ เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาอย่างถูกวิธี

ที่มา : กระทรวงศึกษาธิการ
https://bit.ly/3eH7wjt


สอบถาม
เพิ่มเติมกับ
แชทบอท