Facebook หมอชาวบ้าน Youtube หมอชาวบ้าน


โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

< กลับหน้าหลัก

3 Steps วางแผนการเงินสไตล์ฟรีแลนซ์


หมวดหมู่หลัก: ฟรีแลนซ์

หมวดหมู่ย่อย: อื่นๆ

17-09-2022 15:08

การเป็นฟรีแลนซ์ที่มีความมั่งคงทางการเงินนั้น จะต้องวางแผนการเงินให้ดี เพื่อเตรียมรับมือในเรื่องรายได้ที่ไม่สม่ำเสมอให้ใช้ได้เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของชีวิต รวมถึงต้องเก็บออมไว้ใช้ในยามที่ไม่มีงานไม่มีรายได้ และต้องไม่ลืมเก็บออมเผื่อฉุกเฉินหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน

ภาพประกอบเคส

1.ตรวจสอบค่าใช้จ่ายและวางแผนจัดสรรการใช้เงิน
ด้วยความที่ฟรีแลนซ์มีรายได้ในแต่ละเดือนที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นในแต่ละครั้งที่ได้รับรายได้เข้ามาจึงต้องจัดสรรเงินและกำหนดงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือนก่อน ส่วนที่เหลือค่อยวางแผนการใช้จ่ายให้คุ้มค่าต่อไป โดยแบ่งเงินเป็น 3 ส่วน ตามความจำเป็นและเป้าหมายต่าง ๆ ได้แก่

  • ค่าใช้จ่ายคงที่ ที่ต้องจ่ายทุกเดือนเท่า ๆ กัน เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าเบี้ยประกัน ค่าผ่อนชำระสินค้า ฯลฯ
  • ค่าใช้จ่ายผันแปร สามารถเพิ่มหรือลดได้ตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันหรือการใช้จ่ายของเรา เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง ค่าพักผ่อนสังสรรค์ ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ
  • เงินออมและเงินลงทุน เพื่อเป้าหมายทางการเงินทั้งในระยะสั้นหรือระยะกลาง เช่น เงินดาวน์บ้าน เงินทุนการศึกษาบุตร และระยะยาว เช่น เงินออมเพื่อเกษียณ เนื่องจากฟรีแลนซ์ไม่ได้มีสวัสดิการรองรับในยามแก่เฒ่า การวางแผนออมเงินไว้ดูแลตัวเองและครอบครัวในอนาคตจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก

2.สำรองเงินสำหรับกรณีฉุกเฉินหรือขาดรายได้
ควรสำรองเงินไว้ให้เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 3 – 6 เดือน เพื่อเป็นหลักประกันของชีวิต หากเราไม่มีงานทำเลย ยังสามารถนำเงินสำรองมาใช้จ่ายเป็นการทดแทนได้ ในขณะเดียวกันก็ควรสำรองเงินเผื่อกรณีฉุกเฉิน สำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น เจ็บป่วย อุบัติเหตุ เพราะฟรีแลนซ์ไม่ได้มีสวัสดิการใด ๆ มาช่วยคุ้มครอง หรือทางที่ดีก็อาจจะแบ่งเงินบางส่วนไปซื้อประกันเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงต่าง ๆ จะได้ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้

3.สร้างหลักประกันให้กับชีวิต
ฟรีแลนซ์ที่ไม่ได้มีนายจ้างสามารถเลือกเข้าระบบของกองทุนประกันสังคมเพื่อสร้างหลักประกันจากสิทธิประโยชน์ของรัฐบาลได้ เช่น ถ้าเคยเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ของกองทุนประกันสังคมมาก่อน แล้วลาออกจากบริษัทมาเป็นฟรีแลนซ์ ควรสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 เพื่อให้ยังคงได้รับสิทธิประโยชน์เป็นหลักประกันด้านสุขภาพและชราภาพ หรือหากไม่เคยทำงานประจำมาก่อนเลยสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ซึ่งมีทางเลือกในการส่งเงินสมทบเพื่อคุ้มครอง ได้ 3 – 5 กรณี

นอกจากนี้ หากเราไม่ได้อยู่ในระบบการออมเพื่อเกษียณของภาครัฐสามารถสมัครเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อสร้างหลักประกันเพิ่มเติมในยามเกษียณให้กับตัวเองด้วยอีกทาง เพราะเราก็จะมีสิทธิรับเงินบำนาญทุกเดือนจนกว่าจะสิ้นชีวิต หากสามารถออมเงินได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด

การเป็นฟรีแลนซ์ที่มีความมั่งคงทางการเงินนั้น จะต้องวางแผนการเงินให้ดี เพื่อเตรียมรับมือในเรื่องรายได้ที่ไม่สม่ำเสมอให้ใช้ได้เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของชีวิต รวมถึงต้องเก็บออมไว้ใช้ในยามที่ไม่มีงานไม่มีรายได้ และต้องไม่ลืมเก็บออมเผื่อฉุกเฉินหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ที่สำคัญคือ เราควรสร้างหลักประกันให้กับชีวิตในด้านต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่งคั่งในอาชีพฟรีแลนซ์

ที่มา : กลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
https://www.set.or.th/th/education-research/education/happymoney/freelance


สอบถาม
เพิ่มเติมกับ
แชทบอท