7 เรื่องราวที่ชาว LGBTQ+ ต้องพบเจอในโลกแห่งการทำงาน

1. การสมัครงานที่มีการจำกัดเพศ
รายละเอียดการเปิดรับสมัครงานมักมีการระบุว่ารับเพศชายหรือเพศหญิง ซึ่งกลุ่ม LGBTQ+ ก็จะต้องเลือกสมัครงานตามเพศสภาพของตัวเองให้ตรงกับที่ Job Description ระบุไว้ ทำให้กลุ่ม LGBTQ+ บางคนถูกปฏิเสธการเข้าทำงาน หรือถูกปัดใบสมัครให้ตกรอบโดยไม่คำนึงถึงความสามารถหรือประสบการณ์ที่ผู้สมัครมี ในปัจจุบันนี้ มีหลายบริษัทที่เริ่มระบุรายละเอียดใน Job Description ไว้อย่างชัดเจนว่าเปิดรับผู้สมัครทุกเพศ หรือยินดีต้อนรับผู้สมัครชาว LGBTQ+ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีๆ

2. การไม่กล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง
กลุ่ม LGBTQ+ หลายคน ไม่กล้าแสดงออกทางภายนอกมากนักและปิดบังตัวตนที่แท้จริง ด้วยเหตุผลที่ต่างกันออกไป เช่น รู้สึกไม่สบายใจ การถูกตัดสินจากคนรอบข้าง จนทำให้เกิดผลกระทบต่องานหรือทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังอาจส่งผลต่อสภาพร่างกาย ทำให้เกิดความเครียดสะสม เป็นต้นเหตุของโรคอื่นๆ ตามมาได้อีกด้วย

3. รู้สึกไม่เข้าพวก
ชาว LGBTQ+ ที่มักจะถูกสังคมตัดสิน จึงทำให้อยากได้รับความเข้าใจจากคนรอบข้างมากขึ้น หากโชคดีได้เจอหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานที่เข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น สิ่งนี้ก็จะช่วยปลดล็อคให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น และทำให้พวกเขามีความสุขในการทำงานมากขึ้น แต่หากเกิดความรู้สึกโดดเดี่ยวขึ้นอาจจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน ไปจนถึงแรงจูงใจในการมาทำงาน และเกิดการเปลี่ยนที่ทำงานในที่สุด

4. ปัญหาต่อการเลื่อนตำแหน่งและความก้าวหน้าทางอาชีพ
หลายครั้งการตัดสินให้ถูกเลื่อนตำแหน่ง ก็ไม่ได้พิจารณาจากความสามารถและผลงานอย่างเดียว แต่มักมีเรื่องของอคติต่อบุคคลเข้ามาปนอยู่ด้วยเสมอไม่มากก็น้อย ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นปัญหามาช้านาน และเกิดได้กับทุกกลุ่มคน ชาว LGBTQ+ ก็ต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้เพียงเพราะคนบางกลุ่มไม่เชื่อมั่นว่า กลุ่ม LGBTQ+ จะสามารถก้าวขึ้นมารับหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญของบริษัทได้

5. การถูกเลือกปฏิบัติจากลูกค้า
ชาว LGBTQ+ หลายคนที่ต้องเจอกับการเลือกปฏิบัติจากลูกค้า โดยลูกค้าบางคนเมื่อทราบว่าคนดูแลโปรเจคต์เป็นชาว LGBTQ+ ก็ตรงดิ่งไปแจ้งกับบริษัทว่าขอเปลี่ยนคนดูแลโปรเจคต์แทนซะอย่างนั้น

6. คำพูดและเสียงนินทาจากคนรอบข้าง ชาว LGBTQ+ มักต้องเจอคำนินทาจากคนรอบข้าง ไม่เฉพาะแม้แต่เรื่องงาน แต่รวมไปถึงเรื่องส่วนตัว หรือบางคนอาจเจอการถูกเรียกสรรพนามที่ไม่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศของตนเอง และบางครั้งก็อาจถูกเรียกเพศแบบผิดๆ ไปจนถึงการดูถูกหรือเหยียดหยาม หรือแม้กระทั่งการถูกแซวเล่นจากคนที่ไม่สนิท ซึ่งบางครั้งคนเหล่านั้นอาจไม่ได้คิดมากอะไร แต่กลับไม่รู้ว่าการกระทำเหล่านี้เป็นการทำร้ายจิตใจชาว LGBTQ+ เข้าอย่างจัง เผลอๆ อาจลามไปจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ก้าวไปสู่เรื่องราวของการบูลลี่ได้เช่นกัน

7. สวัสดิการที่ทำให้พวกเขารู้สึกเข้าถึงยาก
เรื่องของสวัสดิการเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่บางครั้งสวัสดิการที่เกิดขึ้นกลับรองรับแค่ผู้ชายหรือผู้หญิงเท่านั้น แต่ไม่ได้ครอบคลุมไปถึงชาว LGBTQ+ ซึ่งหากบริษัทต่างๆ พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงและให้ความสำคัญกับเรื่องของความหลากหลายมากขึ้น ก็อาจเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนชาว LGBTQ+ รู้สึกคอมฟอร์ตในการอยู่ในบริษัทนั้นๆ ได้มากขึ้น และพร้อมที่จะส่งมอบผลงานดีๆ ให้แก่บริษัทต่อไป

ที่มา : jobsdb
https://bit.ly/3TYysLw