วิธีเอาตัวรอดเมื่อเด็กเล็กติดในรถยนต์
หมวดหมู่หลัก: ดูแลตัวเองและครอบครัว
หมวดหมู่ย่อย: อื่นๆ
09-09-2022 11:08
จากกรณีเด็กติดอยู่ในรถตู้เป็นเวลานานจนเสียชีวิต และกว่าครูจะทราบว่าเด็กนักเรียนหายไปก็คือเวลาเลิกเรียน ซึ่งเหตุการณ์ลืมเด็กนักเรียนไว้ในรถรับส่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จากกรณีเด็กติดอยู่ในรถตู้เป็นเวลานานจนเสียชีวิต และกว่าครูจะทราบว่าเด็กนักเรียนหายไปก็คือเวลาเลิกเรียน ซึ่งเหตุการณ์ลืมเด็กนักเรียนไว้ในรถรับส่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า สถิติเด็กถูกลืมไว้ในรถรวบรวมโดยกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค พบว่าช่วงปี 2557-2563 เกิดเหตุการณ์เด็กที่ถูกลืมและทิ้งให้อยู่ในรถคนเดียวมาถึง 129 เหตุการณ์ มีเด็กเสียชีวิต 6 ราย อายุระหว่าง 2-6 ปี ทั้งหมดติดอยู่ในรถเกินกว่า 6 ชั่วโมง
สอดคล้องกับศูนย์วิจัยสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี เคยให้ข้อมูลไว้ว่า เด็กส่วนใหญ่ที่ติดอยู่ในรถไม่ได้เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ แต่เป็นเพราะความร้อนภายในรถที่สูงขึ้น โดย
- หากเด็กติดอยู่ในรถที่จอดกลางแดด 5 นาที อุณหภูมิจะสูงขึ้นจนไม่สามารถทนอยู่ได้
- หากติดนาน 10 นาที ร่างกายจะยิ่งแย่
- หากติดนานกว่า 30 นาที เด็กจะเกิดภาวะเลือดเป็นกรด ช็อก หมดสติ สมองบวม จากนั้นอาจหยุดหายใจ อวัยวะทุกอย่างก็จะหยุดทำงาน และอาจเสียชีวิตได้
เหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นหากทุกคนช่วยกันป้องกันใน 3 ข้อควรจำ คือ
- นับ จำนวนเด็กก่อนขึ้นและหลังลงจากรถทุกครั้ง
- ตรวจตรา ก่อนล็อคประตูรถ ตรวจดูให้ทั่วรถ
- ไม่ประมาท ไม่ทิ้งเด็กไว้เพียงลำพัง แม้จะชั่วระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม
นอกจากนี้ครูและผู้ปกครองควรสอนให้เด็กรู้จักวิธีเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถ โดยใช้นิทานหรือสื่อการ์ตูนให้ความรู้ เช่น
- สอนเด็กให้รู้จักการบีบแตรเป็นจังหวะ เพื่อขอความช่วยเหลือ
- สอนวิธีปลดล็อกประตูรถ
- สอนให้เปิด-ปิดกระจกรถเป็น
- รู้จักเปิดไฟฉุกเฉิน หรือใช้ค้อนทุบกระจกให้แตก
วิธีเอาตัวรอดจากการติดในรถอีกวิธีที่สำคัญคือ การติดต่อพ่อแม่ผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทวอทช์ ผู้ปกครองต้องสอนให้ลูกหลานใช้กดปุ่มโทรฉุกเฉินเป็น
ที่มา : workpointTODAY โดย กรมควบคุมโรค
https://bit.ly/3wXcm27