5 โรควิตกกังวล ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
หมวดหมู่หลัก: ดูแลตัวเองและครอบครัว
หมวดหมู่ย่อย: เจ็บป่วยทั่วไป
23-07-2022 10:34
ใครกำลังรู้สึกเครียด ไม่สบายใจ หรือ กลัวเกินเหตุ มาเช็คให้ชัวร์คุณอาจเสี่ยงเป็นโรควิตกกังวลได้ ต้องบอกว่าในชีวิตประจำวันเราทุกคนจะมีความกังวลอยู่แล้ว แต่ถ้ามีมากเกินไปจนเริ่มรู้สึกว่ารบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน อาจจะเข้าข่ายเป็นโรควิตกกังวลได้ ฉะนั้นแล้วลองสังเกตตัวเองดูจากอาการที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น เหงื่อตก ใจสั่น หรือ เป็นคนชอบย้ำคิดย้ำทำ เพราะหากคุณมีอาการเหล่านี้ ลองมาเช็กให้ชัวร์ว่าคุณกำลังเข่าข่ายเสี่ยงเป็นโรควิตกกังวลหรือเปล่า
ใครกำลังรู้สึกเครียด ไม่สบายใจ หรือ กลัวเกินเหตุ มาเช็คให้ชัวร์คุณอาจเสี่ยงเป็นโรควิตกกังวลได้ ต้องบอกว่าในชีวิตประจำวันเราทุกคนจะมีความกังวลอยู่แล้ว แต่ถ้ามีมากเกินไปจนเริ่มรู้สึกว่ารบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน อาจจะเข้าข่ายเป็นโรควิตกกังวลได้ ฉะนั้นแล้วลองสังเกตตัวเองดูจากอาการที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น เหงื่อตก ใจสั่น หรือ เป็นคนชอบย้ำคิดย้ำทำ เพราะหากคุณมีอาการเหล่านี้ ลองมาเช็กให้ชัวร์ว่าคุณกำลังเข่าข่ายเสี่ยงเป็นโรควิตกกังวลหรือเปล่า
กลุ่มโรควิตกกังวลที่พบบ่อย
- กังวลทั่วไป หรือโรคคิดมาก (Generalized Anxiety Disorder : GAD) ลักษณะอาการคือ คิดมากไปแทบทุกเรื่อง แม้พยายามจะห้ามไม่ให้คิดก็ทำไม่ได้ และมีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีสมาธิ นอนไม่หลับ อย่างน้อย 6 เดือน
- กลัว (Phobias) มีความกลัวอย่างมากต่อสิ่งๆหนึ่ง แม้ความกลัวนั้นจะไม่มีเหตุผล เช่น กลัวที่แคบ กลัวลิฟท์ กลัวการขึ้นเครื่องบิน เป็นต้น
- ตื่นตระหนก (Panic Disorder) มีอาการตื่นตระหนก ตกใจ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว แน่นหน้าอก มึนงง เหงื่อออก หายใจไม่อิ่ม และมีความกังวลว่าอาการเหล่านี้จะกลับมาอีก
- กลัวสังคม (Social Anxiety Disorder) หลายคนมีอาการกลัวอย่างมากในการเข้าสังคม พูดในที่ประชุม คุยกับกลุ่มคนแปลกหน้า จะเริ่มมีอาการเครียด วิตกทันที เมื่อมีกิจกรรมทางสังคม และจะพยายามหลีกเลี่ยง
- กลัวการแยกจาก (Separation Anxiety Disorder) เป็นความวิตกกังวลที่เกินควรเกี่ยวกับการแยกจากบุคคลหรือสถานที่ ความวิตกกังวลเช่นนี้เป็นเรื่องปกติในพัฒนาการของทารกหรือเด็ก เมื่อความรู้สึกนี้เกิดเกินควรจึงจะจัดว่าเป็นโรค โรคเกิดนี้เกิดกับผู้ใหญ่ประมาณ 7% และเด็ก 4% แต่ว่ากรณีเด็กมักจะรุนแรงกว่า ยกตัวอย่างเช่น การจากกันอย่างสั้นๆ ทำให้เกิดความตื่นตระหนกได้
อาจดูเหมือนโรคนี้น่ากลัว แต่คุณป้องกันได้ ง่ายๆ แค่ใช้ชีวิตอย่างมีสุข กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย นอกจากนี้ควรฝึกสติเพื่อรู้ทันอารมณ์ของตัวเองว่าความเครียดว่ามีมากเกินไปหรือไม่ รวมถึงการทำสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบอยู่กับปัจจุบันและให้สมองได้ผ่อนคลาย รับรองสุขภาพดีทั้งกายใจห่างไกลโรคอย่างแน่นอน
ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
https://bit.ly/3uU5W2Y