Facebook หมอชาวบ้าน Youtube หมอชาวบ้าน


โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

< กลับหน้าหลัก

การจูบ ไม่ใช่สาเหตุของฟันผุ


หมวดหมู่หลัก: ดูแลตัวเองและครอบครัว

หมวดหมู่ย่อย: เจ็บป่วยทั่วไป

09-07-2022 11:32

โรคฟันผุเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ไม่ใช่โรคที่ติดต่อผ่านการหอมหรือจูบ ฟันจะผุได้นั้นนอกจากเชื้อโรคแล้ว ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ เช่น ความเป็นกรดของน้ำลาย การไหลของน้ำลาย สภาพของผิวฟัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะเวลาการสัมผัสของเชื้อโรค และกรดต่อผิวฟัน จนกระทั่งเกิดการทำลายของผิวเคลือบฟันและเนื้อฟันตามลำดับ ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาหลายเดือน จนเกิดการทำลายของผลึกเคลือบฟัน ดังนั้นการจูบในช่วงเวลาอันสั้น ไม่สามารถทำให้เกิดการติดต่อของฟันผุได้

ภาพประกอบเคส

โรคฟันผุเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ไม่ใช่โรคที่ติดต่อผ่านการหอมหรือจูบ ฟันจะผุได้นั้นนอกจากเชื้อโรคแล้ว ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ เช่น ความเป็นกรดของน้ำลาย การไหลของน้ำลาย สภาพของผิวฟัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะเวลาการสัมผัสของเชื้อโรค และกรดต่อผิวฟัน จนกระทั่งเกิดการทำลายของผิวเคลือบฟันและเนื้อฟันตามลำดับ ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาหลายเดือน จนเกิดการทำลายของผลึกเคลือบฟัน ดังนั้นการจูบในช่วงเวลาอันสั้น ไม่สามารถทำให้เกิดการติดต่อของฟันผุได้

สาเหตุของฟันผุ
ฟันผุเกิดจากการมีเศษอาหารไปค้างอยู่ตามซอกฟัน หรือมีน้ำตาลจากอาหารที่เรารับประทานสัมผัสกับฟันอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนแผ่นคราบจุลินทรีย์สร้างกรดที่มีฤทธิ์ทำลายผิวฟัน จนกระทั่งทำให้ฟันถูกกัดกร่อนทำลายเป็นรูผุ จากชั้นเคลือบฟันภายนอกเข้าสู่ชั้นในเนื้อฟัน ส่งผลให้เกิดอาการเสียวฟันได้เมื่อรับประทานอาหารร้อนหรือเย็น โดยเมื่อฟันผุมีการลุกลามจนทะลุถึงชั้นโพรงประสาทฟัน จะทำให้เกิดอาการปวดฟัน หรือเกิดรากฟันอักเสบเป็นหนอง ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจเป็นช่องทางให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปสู่ส่วนอื่นได้

การจูบมีโอกาสส่งผ่านเชื้อโรคทางน้ำลาย เช่น โรคไวรัสตับอักเสบ หรือเริม นอกจากนี้กรณีที่มีแผลในช่องปาก อาจทำให้เกิดการติดต่อของโรคติดต่อผ่านทางเลือดได้อีกด้วย เช่น โรคเอดส์ ซิฟิลลิส ดังนั้น ควรดูและรักษาสุขภาพช่องปากเพื่อป้องกันฟันผุ หมั่นสังเกตฟันของตนเอง ลดอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย กินอาหารให้เป็นเวลา ไม่ควรกินจุกจิก

ทั้งนี้การดูแลสุขภาพช่องปากเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยลดปัญหาการเกิดโรคฟันผุ ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและก่อนนอน และใช้ไหมขัดฟันเพื่อช่วยทำความสะอาดซอกฟันที่ขนของแปรงสีฟันเข้าไปไม่ถึง รวมถึงเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำทุก 6-12 เดือน เพื่อป้องกันและยับยั้งปัญหาในช่องปากได้ทันท่วงที

ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
https://bit.ly/3R9dUyw


สอบถาม
เพิ่มเติมกับ
แชทบอท