“ขยับร่างกาย – บริหารปอด” สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายผู้สูงอายุ
หมวดหมู่หลัก: ผู้สูงวัย
หมวดหมู่ย่อย: โควิด
13-03-2022 15:52
เพื่อสร้างความแข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโควิด-19 ผู้สูงอายุจำเป็นต้องอยู่บ้านและหมั่นขยับเคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว
เพื่อสร้างความแข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโควิด-19 ผู้สูงอายุจำเป็นต้องอยู่บ้านและหมั่นขยับเคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว เพราะหากมีการเคลื่อนไหวร่างกายหรือมีการทำกิจกรรมต่าง ๆ น้อย หรือมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง นั่ง ๆ นอน ๆ อาจส่งผลต่อเสียต่อการทำงานของหัวใจ ปอด และหลอดเลือด ทำให้เหนื่อยง่าย มีภาวะความดันโลหิตสูงขึ้น รวมทั้งอัตราการเผาผลาญพลังงานก็จะลดต่ำลง เสี่ยงต่อภาวะอ้วน รวมทั้งความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและข้อต่อจะลดลง ทำให้ประสิทธิภาพการเคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวัน เช่น การลุก-นั่งจากเก้าอี้ การเข้าห้องน้ำ การหยิบจับสิ่งของ ลดน้อยลงตามไปด้วย เสี่ยงต่อการหกล้มได้ง่าย นอกจากนี้ ผู้สูงอายุที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อย มีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ ยังส่งผลให้ภาวะโรคประจำตัวนั้นรุนแรงขึ้นได้
ผู้สูงอายุสามารถเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงได้ ด้วยการเพิ่มกิจกรรมทางกายและออกกำลังกายง่าย ๆ ได้ที่บ้าน ดังนี้
1) เคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวันให้มาก เช่น การทำงานบ้าน การเดิน รดน้ำต้นไม้ ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออย่างสม่ำเสมอ เช่น เดิน ปั่นจักรยาน เต้นรำ โดยเฉลี่ยอย่างน้อยวันละ 30 นาที
2) บริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ให้แข็งแรง ควบคู่กับการยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ เช่น ดึงยาง ยกดรัมเบล
3) มีกิจกรรมทางกายแบบผสมผสานระหว่างการเคลื่อนไหวรูปแบบต่าง ๆ และการทรงตัว อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ เช่น เต้นบาสโลบ ฟ้อนรำ รำวง รำไท่จี้ชี่กง กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยพัฒนาการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้สูงอายุให้มีประสิทธิภาพ และเป็นการฝึกการทรงตัว เพื่อป้องกันการหกล้ม
4) การบริหารปอด โดยฝึกการหายใจเข้าและออกแต่ละครั้งนานประมาณ 5 วินาที เพื่อเป็นการฟื้นฟูสมรรถภาพปอดของผู้สูงอายุ เพิ่มการขยายตัวของปอด และกล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจให้แข็งแรง
เพียงเท่านี้ผู้สูงอายุที่อยู่บ้านก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรง เพิ่มภูมิต้านทาน ห่างไกลจากโรคโควิด-19
ที่มา : ศูนย์สื่อสารสาธารณะ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
https://multimedia.anamai.moph.go.th/news/260764/