ความมั่นใจของผู้ปกครอง ต่อการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5 - 11 ปี
หมวดหมู่หลัก: ดูแลตัวเองและครอบครัว
หมวดหมู่ย่อย: โควิด
11-06-2022 08:42
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลุ่มเด็กเล็กยังคงเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังและป้องกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงของการเปิดภาคเรียนแบบ On-Site ทุกชั้นเรียน เด็กควรได้รับวัคซีนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลุ่มเด็กเล็กยังคงเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังและป้องกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงของการเปิดภาคเรียนแบบ On-Site ทุกชั้นเรียน เด็กควรได้รับวัคซีนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ
จากผลการสำรวจอนามัยโพลเรื่อง “ความมั่นใจของผู้ปกครองต่อการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5 - 11 ปี” ระหว่างวันที่ 22 เมษายน – 11 พฤษภาคม 2565 พบว่า
- ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว และจะฉีดให้ครบ ร้อยละ 54.1
- ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเลย ร้อยละ 28.7
โดยเหตุผลที่ทำให้กลุ่มผู้ปกครองไม่พาเด็กเข้ารับการฉีดวัคซีน คือ
- ยังมีความกังวลว่าเด็กอาจมีอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง ร้อยละ 77.2
- ไม่มั่นใจในประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของวัคซีน ร้อยละ 55.3
- ยังกังวลว่าเด็กที่ไม่แข็งแรงหรือมีโรคประจำตัว อาจได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากวัคซีน ร้อยละ 37
ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5 - 11 ปี สามารถสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง และเสียชีวิตในเด็กได้ รวมทั้งการกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาที่โรงเรียน จึงขอให้ผู้ปกครองมั่นใจในความปลอดภัยของการฉีดวัคซีน โดยการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนในเด็กได้ดังนี้
- ให้เด็กกินอาหารก่อนเข้ารับวัคซีน
- หากเด็กมีอาการป่วย มีไข้ ร่างกายอ่อนเพลีย ควรรักษาอาการให้หายจนกว่าจะเป็นปกติก่อน
- สำหรับเด็กที่มีโรคประจำตัวรุนแรง อาการยังไม่คงที่ ควรเข้ารับการประเมินอาการจากแพทย์ประจำตัวก่อนเข้ารับการฉีด
อาการที่พบได้หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ คือ ปวด บวม แดง เฉพาะที่ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เป็นไข้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องสังเกตอาการหลังการฉีดอย่างน้อย 30 นาที ในสถานที่ฉีดวัคซีน ซึ่งอาการดังกล่าว สามารถหายได้เองเมื่อกินยาลดไข้ และพักผ่อนให้เพียงพอ หลังฉีดวัคซีน 1 สัปดาห์
ที่มา: กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/02/174028/