วิธีป้องกัน-แก้ "เมาเรือ" โดยไม่พึ่งยา
หมวดหมู่หลัก: ดูแลตัวเองและครอบครัว
หมวดหมู่ย่อย: เจ็บป่วยทั่วไป
15-05-2022 17:03
เดิมทีสาเหตุของอาการเมาเรือนี้เกิดจากขณะที่เรากำลังเคลื่อนไหว จู่ๆ สมองก็เกิดความสับสนเพราะข้อมูลที่ได้รับจากประสาทหูและตา ไม่สอดคล้องกับอวัยวะควบคุมระบบสมดุลร่างกาย ซึ่งระบบประสาทของคนที่เดินทางบ่อยก็จะค่อยๆ ฝึกฝนทักษะ แต่สำหรับใครที่ไม่ค่อยได้ล่องคลื่นเท่าไหร่ ก็อาจจะมี "แหวะ" เหมือนกัน มาดูวิธีป้องกันและวิธีแก้กันเลยดีกว่า
เดิมทีสาเหตุของอาการเมาเรือนี้เกิดจากขณะที่เรากำลังเคลื่อนไหว จู่ๆ สมองก็เกิดความสับสนเพราะข้อมูลที่ได้รับจากประสาทหูและตา ไม่สอดคล้องกับอวัยวะควบคุมระบบสมดุลร่างกาย ซึ่งระบบประสาทของคนที่เดินทางบ่อยก็จะค่อยๆ ฝึกฝนทักษะ แต่สำหรับใครที่ไม่ค่อยได้ล่องคลื่นเท่าไหร่ ก็อาจจะมี "แหวะ" เหมือนกัน มาดูวิธีป้องกันและวิธีแก้กันเลยดีกว่า
วิธีป้องกันอาการเมาเรือ
- นอนหลับให้เพียงพอ การอดนอนก่อนออกเที่ยวก็เหมือนไปรบแบบไม่เต็มร้อย เมื่อร่างกายไม่พร้อมก็ย่อมส่งผลให้ระบบประสาททำงานไม่ดีจนเมาเรือง่ายได้เหมือนกัน
- หาอะไรกินก่อนล่องเรือ หลายคนอาจคิดว่าถ้าไม่ได้กินอะไรเข้าไป ก็จะไม่มีอะไรออกมา แต่กลับกันเมื่อมันจะออก ก็ย่อมมีอะไรให้ออกเหมือนกัน ดังนั้นเราจึงไม่ควรปล่อยให้ท้องว่างหรืออิ่มเกินไปอย่างน้อยสัก 30 นาที
- งดแฮงค์ ก่อนเอาท์ แค่แฮงค์หลังกินเหล้าก็เวียนหัวจะแย่อยู่แล้ว มานั่งอะไรขึ้นๆลงๆก็เพิ่มโอกาสเสี่ยงแน่นอน
- นั่งเบาะหน้าหาที่(อากาศ)ถ่ายเท การนั่งหน้าและมองไปข้างหน้าทำให้ตาและหูรับรู้การเคลื่อนไหวของเรือได้ดีขึ้น รวมถึงหาที่ที่มีอากาศถ่ายเทมองเห็นวิวไกลให้ระบบร่างกายรู้สึกตัวว่ากำลังเคลื่อนไหวอยู่ และมีสมาธิมากขึ้น
วิธีแก้อาการเมาเรือ
- หยุดโฟกัสโทรศัพท์ ตัวหนังสือ การใช้สายตาเพ่งอะไรมากเกินไปจะทำให้ประสาทตาทำงานหนัก ทั้งรับงานสังเกตความเคลื่อนไหวของร่างกายแถมยังต้องโฟกัสหน้าจออีก อาจเพิ่มภาระให้ลำคอได้เหมือนกัน
- เคี้ยวหมากฝรั่ง การเคี้ยวหมากฝรั่งจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทหูลดอาการโคลงเคลงของเรือ
- หายใจเข้าออกลึกๆ การหายใจเข้าออกในจังหวะที่สม่ำเสมอกันจะช่วยให้ร่างกายได้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
- พึ่งยาดม หากไม่มียากิน ก็ถึงเวลาพึ่งยาดมตามหลักสามัญประจำบ้าน กลิ่นหอมจะช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนได้ดีที่สุด
- ไม่ไหวก็นอน หลับตาแล้วนอนลงบนพื้นราบจะช่วยลดระบบประสาทร่างกายและความสับสนของสมอง ทำให้ภาระสมองทำงานหนักน้อยลงนั่นเอง
ที่มา : iNN Lifestyle
https://www.innnews.co.th/lifestyle/news_319679/