ทำงานอย่างไร ให้ปลอดภัยจากโควิด-19
หมวดหมู่หลัก: ดูแลตัวเองและครอบครัว
หมวดหมู่ย่อย: โควิด
15-05-2022 16:49
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ที่ไม่ได้ Work From Home และยังคงมีความจำเป็นต้องเดินทางไปทำงาน อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ เนื่องจากการสัมผัสพื้นผิวร่วมกัน เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู ปุ่มกดลิฟต์ โต๊ะ เก้าอี้ ห้องน้ำ เป็นต้น
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ที่ไม่ได้ Work From Home และยังคงมีความจำเป็นต้องเดินทางไปทำงาน อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ เนื่องจากการสัมผัสพื้นผิวร่วมกัน เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู ปุ่มกดลิฟต์ โต๊ะ เก้าอี้ ห้องน้ำ เป็นต้น
วัยทำงานต้องคุมเข้มเพื่อให้อยู่ที่ทำงานอย่างปลอดภัยจากโควิด-19 ด้วยหลักปฏิบัติ 6 วิธี ดังนี้
- ก่อนเข้าทำงานต้องประเมินตนเอง ผ่านระบบ “ไทยเซฟไทย” หรือแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ หากพบว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ให้แจ้งหัวหน้างาน และปฏิบัติตามมาตรการของหน่วยงานที่กำหนดไว้
- สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน และล้างมือบ่อย ๆ
- หมั่นทำความสะอาดของใช้ส่วนตัว เช่น โทรศัพท์ โต๊ะทำงาน
- ใช้รูปแบบ Online แทนการรวมกลุ่มพูดคุย หรือการประชุม
- ไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ จาน ชาม ช้อน ส้อม เป็นต้น
- แยกกันกินอาหาร เว้นระยะห่างกับผู้ร่วมงาน สำหรับกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ หน่วยงานควรพิจารณาใช้มาตรการ Work From Home ให้มากที่สุด
สำหรับสถานที่ทำงาน ต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด ดังนี้
- จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการในบริเวณต่าง ๆ อย่างเพียงพอ เช่น ทางเข้า-ออก หน้าลิฟต์ ห้องอาหาร ห้องน้ำ
- มีการกำหนด และตรวจสอบการทำความสะอาดบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง สำนักงาน อุปกรณ์ เครื่องใช้ทุกรอบการปฏิบัติงาน
- มีภาชนะรองรับขยะประเภทต่าง ๆ อยู่ในสภาพดี และกำหนดจุดรวบรวม เพื่อรอการนำไปกำจัดอย่างถูกต้อง
- มีมาตรการควบคุมจำนวนผู้ปฏิบัติงานไม่ให้แออัด โดยลดการรวมกลุ่มระหว่างบุคคล เช่น สลับเวลาในการเข้างาน เวลาพัก หรือเวลากินอาหาร หากพื้นที่จำกัดไม่สามารถจัดโต๊ะให้เว้นระยะห่างได้ถึง 1 เมตร ให้ทำฉากกั้น
- ภายในอาคารให้มีการระบายอากาศก่อนและหลังการใช้งาน เป็นเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง รวมทั้งทำความสะอาดระบบระบายอากาศอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขอนามัยที่ดี
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/02/173333/