Facebook หมอชาวบ้าน Youtube หมอชาวบ้าน


โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

< กลับหน้าหลัก

แอร์สกปรก เสี่ยงป่วย เสี่ยงโรค


หมวดหมู่หลัก: ดูแลตัวเองและครอบครัว

หมวดหมู่ย่อย: เจ็บป่วยทั่วไป

15-05-2022 15:49

ในช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าว แดดแผดเผาขนาดนี้ แอร์เป็นตัวช่วยในการคลายร้อนทั้งกลางวัน กลางคืน ได้เป็นอย่างดี แต่แอร์ที่ใช้งานอย่างหนัก และไม่ได้ล้างเป็นเวลานาน ความชื้นจากตัวแอร์และท่อน้ำทิ้ง อาจก่อให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้ ทั้งเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียลิจิโอเนลลานิวโมฟิวลา หากหายใจเอาฝอยละอองน้ำที่มีเชื้อนี้ปนเปื้อนเข้าไปจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้

ภาพประกอบเคส

ในช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าว แดดแผดเผาขนาดนี้ แอร์เป็นตัวช่วยในการคลายร้อนทั้งกลางวัน กลางคืน ได้เป็นอย่างดี แต่แอร์ที่ใช้งานอย่างหนัก และไม่ได้ล้างเป็นเวลานาน ความชื้นจากตัวแอร์และท่อน้ำทิ้ง อาจก่อให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้ ทั้งเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียลิจิโอเนลลานิวโมฟิวลา หากหายใจเอาฝอยละอองน้ำที่มีเชื้อนี้ปนเปื้อนเข้าไปจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้

ลักษณะอาการที่พบมี 2 แบบ คือ

1) แบบมีอาการปอดอักเสบรุนแรง มีไข้สูง ไอ หนาวสั่น เรียกว่า “โรคลิเจียนแนร์ (LEGIONELLOSIS)” 2) แบบมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เรียกว่า “ไข้ปอนเตียก (PONTIAC FEVER)”

การล้างทำความสะอาดแอร์

การล้างทำความสะอาดแอร์ดูตามความเหมาะสมจากสภาพแวดล้อมและการใช้งาน หากเป็นแอร์ตามบ้านควรล้างแผ่นกรองอากาศด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค โดยใช้น้ำฉีดแรง ๆ ที่ด้านหลัง และด้านที่ไม่ได้รับฝุ่น ให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกหลุดออกอย่างน้อยเดือนละครั้ง และควรล้างแอร์แบบเต็มระบบอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งเช่นเดียวกัน แต่หากใช้เป็นประจำทุกวัน ควรล้างทำความสะอาดประมาณ 6 เดือนต่อครั้ง เพื่อช่วยลดเชื้อโรคที่อาจสะสมอยู่ในแอร์ และประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่งด้วย

ข้อปฏิบัติการควบคุมเชื้อลิจิโอเนลลา

  • สำหรับแอร์ที่ใช้ตามบ้านเรือน เมื่อเปิดแอร์ควรสังเกตว่าอากาศที่ออกมาจากแอร์มีกลิ่นเหม็นหรือมีกลิ่นอับหรือไม่
  • หากมีกลิ่นควรล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศที่อยู่ในแอร์ด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
  • หากล้างทำความสะอาดแล้วกลิ่นไม่หาย ควรเรียกช่างเพื่อทำความสะอาดแบบเต็มระบบ

ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://bit.ly/3y5CnxV


สอบถาม
เพิ่มเติมกับ
แชทบอท