จับตาโอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม “XE” แพร่เชื้อรวดเร็วกว่าทุกสายพันธุ์

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2565 องค์การอนามัยโลก (WHO) มีคำเตือนเกี่ยวกับ “XE” โอไมครอนสายพันธุ์ลูกผสม ระหว่างโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1 X BA.2 ซึ่งไม่ใช่เดลตาครอนที่เป็นสายพันธุ์ลูกผสมระหว่าง เดลตา X โอไมครอน สามารถแพร่เชื้อติดต่อได้ง่ายและรวดเร็วกว่าทุกสายพันธุ์ที่เคยมี โดยองค์การอนามัยโลกยังไม่มีการตั้งชื่อให้อย่างเป็นทางการจนกว่า XE จะแสดงอาการทางคลินิกที่รุนแรงแตกต่างไปจากสายพันธุ์อื่นอย่างชัดเจน

ล่าสุด ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดีตรวจพบสายพันธุ์ลูกผสม XE จากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจากตัวอย่างสวอปส่งตรวจของผู้ติดเชื้อชาวไทย 1 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่ม "สีเขียว" มีอาการเล็กน้อย ปัจจุบันหายจากอาการโควิดแล้ว มีการสุ่มตรวจ ATK คนรอบข้างไม่พบใครติดเชื้อ

การค้นพบโอไมครอนสายพันธุ์ลูกผสม XE

โอไมครอนสายพันธุ์ลูกผสม XE พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2565 โดยมีการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมและอัปโหลดขึ้นไปแชร์ไว้บนฐานข้อมูลโควิด-19 โลกแล้วมากกว่า 600 ตัวอย่าง โดยองค์การอนามัยโลกประเมินว่า สายพันธุ์ลูกผสม XE มีอัตราการแพร่ระบาดเหนือกว่า BA.2 ถึง 10% แต่ยังต้องรอข้อมูลจากทั่วโลกที่ร่วมด้วยช่วยกันถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมอีกระยะหนึ่งเพื่อการยืนยัน

ขณะนี้ องค์การอนามัยโลกกำลังเฝ้าติดตามโอมิครอน XE อย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการแพร่ติดเชื้อ อาการป่วย และความรุนแรงของโรคจากการติดโอมิครอน XE ควบคู่ไปกับเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่นๆ โดยทางองค์การอนามัยโลกจะมีการรายงานความคืบหน้าหากพบหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ของ ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี