โรคผมร่วงเป็นหย่อม (alopecia areata)
หมวดหมู่หลัก: ดูแลตัวเองและครอบครัว
หมวดหมู่ย่อย: เจ็บป่วยทั่วไป
15-05-2022 08:44
โรคผมร่วงเป็นหย่อม (alopecia areata) เป็นโรคผมร่วงที่พบบ่อยในทุกช่วงอายุ ผู้ป่วยมักมีอาการผมร่วงเฉพาะที่ บริเวณที่ผมร่วงมีลักษณะกลม หรือรี ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการมากคือ ผมร่วงหมดทั้งศีรษะ (alopecia totalis) และมีขนบริเวณอื่นของร่างกายร่วงจนหมดร่วมด้วย (alopecia universalis) เช่น บริเวณเครา หนวด ขนคิ้ว และขนตามร่างกาย
![ภาพประกอบเคส](https://folkdoctor.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/case-img/case-346-1.png)
โรคผมร่วงเป็นหย่อม (alopecia areata) เป็นโรคผมร่วงที่พบบ่อยในทุกช่วงอายุ ผู้ป่วยมักมีอาการผมร่วงเฉพาะที่ บริเวณที่ผมร่วงมีลักษณะกลม หรือรี ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการมากคือ ผมร่วงหมดทั้งศีรษะ (alopecia totalis) และมีขนบริเวณอื่นของร่างกายร่วงจนหมดร่วมด้วย (alopecia universalis) เช่น บริเวณเครา หนวด ขนคิ้ว และขนตามร่างกาย
ในผู้ป่วยบางรายที่มีผมร่วงไม่มาก อาการจะหายได้เองแต่อาจใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปี ซึ่งต่างจากในผู้ป่วยที่ผมร่วงมากมักจะไม่หายเอง โรคนี้อาจมีอาการเป็นๆ หายๆ ได้ ซึ่งการเป็นซ้ำอาจเกิดขึ้นเองหรืออาจเกิดจากการที่ร่างกายได้รับการกระตุ้นจากภาวะการเจ็บป่วยอื่นๆ หรือภาวะเครียดจากร่างกายและจิตใจ
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักไม่มีอาการอื่นนอกเหนือจากผมร่วง อย่างไรก็ตามบางรายอาจมีอาการเจ็บ หรือรู้สึกผิดปกติที่บริเวณหย่อมผมร่วง ผมอาจมีสีขาวเนื่องจากอาการของโรคมีผลต่อเซลล์ที่สร้างสีของผม อาจมีลักษณะเป็นหลุมเล็กๆ ตื้นๆ ที่บริเวณผิวเล็บ (pitting nail)
สาเหตุของโรคผมร่วงเป็นหย่อม
โรคผมร่วงเป็นหย่อมนี้เกิดจากการที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อรากผมตนเอง (autoimmunity) ซึ่งสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดได้อย่างไร โรคนี้อาจพบร่วมกับโรคอื่นได้ ที่พบบ่อยได้แก่ โรคภูมิแพ้ เช่น โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ทางจมูก หรือโรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง โรคไทรอยด์ และโรคด่างขาว โรคนี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้
การวินิจฉัยโรค
สามารถวินิจฉัยได้จากอาการทางคลินิก มีเพียงบางรายที่อาจต้องทำการตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจทางพยาธิวิทยาเพื่อยืนยันการวินิจฉัย
วิธีการรักษามีหลายวิธี เช่น
- การฉีดยาเฉพาะที่ เหมาะกับผู้ป่วยที่มีหย่อมผมร่วงไม่กว้างมาก ซึ่งเป็นการรักษาที่ให้ผลดี
- การทายาเฉพาะที่ เหมาะกับผู้ป่วยที่มีผมร่วงเล็กน้อยจนถึงผมร่วงมาก ควรใช้ยาที่เป็นรูปแบบน้ำ หรือโลชั่นเนื่องจากความสะดวกในการใช้
- การใช้ยารับประทาน มียาหลายชนิดให้เลือกใช้ ยาบางชนิดอาจใช้ได้ผลแต่พบว่ามีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้สูงมีผลข้างเคียงมาก
ทั้งนี้การรักษาควรอยู่ในความดูแลของแพทย์เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียง เช่น ทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่หนังศีรษะมีผื่นบริเวณอื่นของร่างกาย ขนดก เป็นรอยขาวหรือรอยดำที่หนังศีรษะบริเวณที่ทายา หรือยาบางชนิดมีผลข้างเคียงมาก เช่นทำให้ผิวหนังบางเป็นรอยแดง
ที่มา : สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
https://bit.ly/3Lzei5S