Facebook หมอชาวบ้าน Youtube หมอชาวบ้าน


โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

< กลับหน้าหลัก

โรคไอพีดี


หมวดหมู่หลัก: พ่อแม่มือใหม่

หมวดหมู่ย่อย: เจ็บป่วยทั่วไป

14-05-2022 15:18

โรคไอพีดี เป็นโรคติดเชื้อชนิดรุนแรงในเด็ก สาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า นิวโมคอคคัส ที่อาศัยอยู่ในโพรงจมูกและคอ ซึ่งสามารถติดต่อซึ่งกันและกันโดยผ่านการไอ จาม หรือสัมผัสสิ่งคัดหลั่ง

ภาพประกอบเคส

โรคไอพีดี เป็นโรคติดเชื้อชนิดรุนแรงในเด็ก สาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า นิวโมคอคคัส ที่อาศัยอยู่ในโพรงจมูกและคอ ซึ่งสามารถติดต่อซึ่งกันและกันโดยผ่านการไอ จาม หรือสัมผัสสิ่งคัดหลั่ง

อาการของโรคไอพีดี

อาการเหมือนกับการแพร่เชื้อไข้หวัดธรรมดา แต่ผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรงกว่าไข้หวัด ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดอักเสบรุนแรง โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุ 2 ปี ยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคนี้ ทั้งนี้ระดับความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ติดเชื้อ ได้แก่

  • การติดเชื้อในระบบประสาท เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เด็กจะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง คลื่นไส้อาเจียน คอแข็ง ส่วนในเด็กทารกจะร้องงอแง ซึม ไม่กินนม และชักได้ ถ้ารักษาไม่ทันท่วงทีอาจพิการ หูหนวก ปัญญาอ่อน หรือเสียชีวิต
  • การติดเชื้อในกระแสเลือด เด็กจะมีอาการไข้สูง ร้องกวนงอแง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ช็อก เสียชีวิต นอกจากนี้ เชื้ออาจกระจายไปสู่อวัยวะอื่นๆ เช่น เยื่อหุ้มสมอง ปอด กระดูกและข้อ เป็นต้น
  • การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น หูน้ำหนวก เด็กจะมีอาการไข้สูง บ่นปวดหู งอแง ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจลุกลามไปอวัยวะข้างเคียงหรือสมอง หูน้ำหนวกเรื้อรัง แก้วหูทะลุ และการได้ยินบกพร่อง ซึ่งมีผลต่อพัฒนาการด้านภาษาของเด็กด้วย
  • การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนกลาง เช่น ปอดอักเสบ เด็กจะมีไข้ ไอ หายใจเร็ว หอบ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ และเสียชีวิตหากได้รับการรักษาล่าช้า

การรักษาโรคไอพีดี

  • การติดเชื้อไม่รุนแรง เช่น คออักเสบ หูน้ำหนวก หรือไซนัสอักเสบ สามารถรักษาโดยการรับประทานยา
  • การติดเชื้อแบบลุกลาม ต้องให้ยาปฏิชีวนะทางเส้นเลือด

การป้องกันเบื้องต้น

ทำได้โดยสอนให้เด็กล้างมือ ปิดปาก ปิดจมูกทุกครั้งที่ไอหรือจาม หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนที่เป็นหวัดหรือป่วย ควรให้ลูกกินนมแม่ เพื่อให้มีภูมิต้านทานจากแม่ไปสู่ลูกทางอ้อม และฉีดวัคซีนซึ่งเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด

ที่มา : สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี https://bit.ly/37ljwUy


สอบถาม
เพิ่มเติมกับ
แชทบอท