คุณแม่ตั้งครรภ์ ดื่มนมแบบไหนได้ประโยชน์และปลอดภัย

นม เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนและแคลเซียม ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและพัฒนาการด้านการสร้างกระดูกของลูกน้อยในครรภ์ การดื่มนมจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนท้อง แต่ยังคงมีข้อสงสัยว่า คนท้องสามารถดื่มนมได้ทุกชนิดหรือไม่

ซึ่งโดยทั่วไปคุณแม่ตั้งครรภ์ควรดื่มนมขาดมันเนยหรือนมที่ปราศจากไขมันวันละประมาณ 3 แก้ว (หรือประมาณ 720 มิลลิลิตร) เพื่อให้ร่างกายได้รับปริมาณแคลเซียมอย่างเพียงพอ แต่นมบางประเภทนั้นอาจไม่ปลอดภัยต่อร่างกายคุณแม่มากนัก นมที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับคนท้อง

เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดกับคุณแม่และลูกในครรภ์ คุณแม่จำเป็นต้องศึกษาว่าควรดื่มนมประเภทใดถึงจะได้ประโยชน์และปลอดภัยมากที่สุด ดังนี้

1.นมพาสเจอไรซ์ (Pasteurized Milk)
นมชนิดนี้จะผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ยีสต์ และเชื้อราด้วยความร้อนปานกลาง เพื่อทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ โดยจะยังคงคุณค่าทางอาหารและรสชาติไว้เหมือนเดิม แม้ว่าจะผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ แต่เชื้อบางชนิดที่ทนความร้อนอาจยังอยู่รอดได้

2.นมยูเอชที (Ultra High Temperature Milk: UHT Milk)
เป็นนมที่ผ่านการทำลายเชื้อจุลินทรีย์ทั้งหมดด้วยการให้ความร้อนสูง บรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดเชื้อ จึงทำให้สูญเสียคุณค่าทางอาหารน้อยและเก็บไว้ได้นานกว่านมพาสเจอไรซ์ แต่นมที่เก็บไว้เป็นเวลานานอาจมีคุณภาพที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น กลิ่น หรือรสชาติ ไขมันนมแยกตัวเป็นชั้น นมหนืดเป็นวุ้น ซึ่งเป็นลักษณะของนมหมดอายุที่ไม่ควรดื่ม

3.นมถั่วเหลือง
ถั่วเหลืองและนมถั่วเหลืองเป็นแหล่งโปรตีน วิตามิน และแคลเซียมชั้นดีสำหรับทุกคน อีกทั้งมีแคลอรี่ต่ำเพียงแค่ 1-2 เปอร์เซ็นต์ของนมวัว และมีไขมันอิ่มตัวที่เป็นไขมันชนิดไม่ดีต่อร่างกายในปริมาณน้อยด้วย แต่คุณแม่บางรายอาจมีอาการแพ้ถั่วเหลือง จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลก่อนเสมอ

ทั้งนี้ สตรีมีครรภ์ที่ดื่มนมพาสเจอไรซ์แบบมีไขมันอยู่ก่อนแล้วอาจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมาดื่มนมแบบไขมันต่ำหรือขาดมันเนย โดยสามารถดื่มแทนกันได้เลย

4.นมชนิดไหนที่คนท้องควรหลีกเลี่ยง
น้ำนมดิบหรือนมที่ยังไม่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ รวมถึงอาหารใด ๆ ที่มีส่วนผสมของนมดิบล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ปลอดภัยสำหรับคนท้อง เพราะอาหารหรือเครื่องดื่มเหล่านี้อาจปนเปื้อนด้วยเชื้อโรคบางชนิด ซึ่งก่อให้เกิดการติดเชื้อที่อันตรายต่อแม่และเด็ก โดยเฉพาะการติดเชื้อแบคทีเรียลิสเทอเรีย (Listeriosis) ที่นำไปสู่การแท้งบุตร การเจ็บป่วย หรือการเสียชีวิตของทารกในครรภ์ได้

หากคุณแม่สงสัยว่าตนเองได้ดื่มนมดิบแล้วเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง มีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ ไข้ขึ้น ปวดศีรษะ หรือปวดตามร่างกาย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

นอกจากการดื่มนมจะมีประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกในครรภ์แล้ว ควรมุ่งเน้นเรื่องโภชนาการและการดูแลตนเองตามคำแนะนำของแพทย์อีกด้วย โดยรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ อุดมด้วยสารอาหารอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดวันละประมาณ 6-8 แก้ว ออกกำลังกายอย่างพอประมาณ รวมถึงลด ละ เลิกสิ่งที่อาจเป็นอันตรายต่อตนเองและลูก โดยเฉพาะการดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างชาหรือกาแฟ ของหมักดอง และการสูบบุหรี่ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพกายและสุขภาพจิตของคุณแม่ในระหว่างตั้งครรภ์ให้ออกมาสมบูรณ์แข็งแรง

ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
https://bit.ly/3r0HBXj