Facebook หมอชาวบ้าน Youtube หมอชาวบ้าน


โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

< กลับหน้าหลัก

สัญญาณไฟฉุกเฉินรถยนต์ เข้าใจ ใช้เป็น ลดอุบัติเหตุ


หมวดหมู่หลัก: ดูแลตัวเองและครอบครัว

หมวดหมู่ย่อย: อื่นๆ

12-04-2022 11:31

การใช้สัญญาณไฟกระพริบ หรือไฟฉุกเฉิน หรือสัญญาณไฟผ่าหมาก ที่เราชอบเรียกกัน เป็นสัญญาณเตือนชั่วขณะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่ผู้ขับขี่รถยนต์หลายท่านอาจมีความเข้าใจและใช้งานแบบผิดๆ

ภาพประกอบเคส

การใช้สัญญาณไฟกระพริบ หรือไฟฉุกเฉิน หรือสัญญาณไฟผ่าหมาก ที่เราชอบเรียกกัน เป็นสัญญาณเตือนชั่วขณะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่ผู้ขับขี่รถยนต์หลายท่านอาจมีความเข้าใจและใช้งานแบบผิดๆ

การใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินแบบผิดๆ มี 2 กรณี คือ

  1. การใช้ไฟฉุกเฉินเพื่อข้ามสี่แยก บริเวณสี่แยกนั้น ซึ่งรถทางซ้ายและขวาจะเห็นไฟกระพริบจากรถของคุณเพียงมุมใดมุมหนึ่งเท่านั้น ทำให้เข้าใจว่าคุณกำลังจะเลี้ยว จึงมิได้ชะลอความเร็วลง ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ข้อปฏิบัติที่ถูกต้อง ชะลอความเร็วก่อนถึงแยก มองซ้ายขวาให้รอบคอบ ไม่จำเป็นต้องเปิดสัญญาณ

  2. ใช้ไฟฉุกเฉินเมื่อฝนตกหนัก เนื่องจากขณะเปิดไฟฉุกเฉิน ไฟเลี้ยวจะไม่ทำงาน ทำให้รถที่ตามมา หรือคันข้างๆ ไม่ทราบว่าเรากำลังจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ อีกทั้งยังเป็นการรบกวนสายตาผู้อื่น เกินความจำเป็นอีกด้วย นอกจากนั้นหากมีรถเสียขึ้นมาจริงๆ และรถคันอื่นใช้ไฟฉุกเฉินกันอย่างพร่ำเพรื่อ อาจทำให้คันที่ตามมาเข้าใจผิดว่า ข้างหน้ามีจราจรติดขัด ทำให้จอดตามๆ กัน

การใช้สัญญาณไฟกระพริบหรือไฟฉุกเฉินที่ถูกต้อง

  • การเปิดไฟฉุกเฉินตามที่กฎหมายกำหนด คือ จะต้องเปิดเมื่อ “รถจอดอยู่กับที่เท่านั้น” เช่น ในกรณีที่ประสบอุบัติเหตุ หรือจอดรถขณะที่เครื่องยนต์หรืออุปกรณ์ขัดข้อง หรือกรณีพบอุบัติเหตุข้างหน้า
  • ผู้ที่ต้องขับรถตามรถที่เปิดไฟฉุกเฉิน ควรทิ้งระยะห่างจากรถคันที่เปิดไฟฉุกเฉินอย่างน้อย 50 เมตร เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
  • ห้ามใช้พร่ำเพรื่อ เพราะผู้ขับขี่ที่ขับตามหลังมาอาจสับสน จนเกิดอุบัติเหตุได้

ที่มา : กรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งจังหวัดพิษณุโลก
https://bit.ly/3HMOi4y


สอบถาม
เพิ่มเติมกับ
แชทบอท