Facebook หมอชาวบ้าน Youtube หมอชาวบ้าน


โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

< กลับหน้าหลัก

วัคซีนป้องกันโรคสำหรับผู้สูงอายุ


หมวดหมู่หลัก: ผู้สูงวัย

หมวดหมู่ย่อย: เจ็บป่วยทั่วไป

11-04-2022 15:40

ผู้สูงอายุเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะลดลงจนอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ เจ็บป่วยที่รุนแรงหรือมีโรคแทรกซ้อนได้ง่ายกว่าวัยหนุ่มสาว ดังนั้นการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคในผู้สูงอายุจึงมีความสำคัญ โดยเฉพาะวัคซีนที่จำเป็นและแนะนำให้ฉีดในผู้สูงอายุมี 4 ชนิด

ภาพประกอบเคส

ผู้สูงอายุเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะลดลงจนอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ เจ็บป่วยที่รุนแรงหรือมีโรคแทรกซ้อนได้ง่ายกว่าวัยหนุ่มสาว ดังนั้นการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคในผู้สูงอายุจึงมีความสำคัญ โดยเฉพาะวัคซีนที่จำเป็นและแนะนำให้ฉีดในผู้สูงอายุมี 4 ชนิด ได้แก่

1.วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ (INFLUENZA VACCINE)
ในปัจจุบันประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขให้บริการฉีดวัคซีนชนิดนี้ฟรีให้กับผู้สูงอายุ (ตั้งแต่อายุ 65 ปีขึ้นไป)

คำแนะนำ ฉีดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ก่อนเข้าฤดูฝน แต่สามารถฉีดได้ตลอดทั้งปี ห้ามฉีดในผู้ที่มีประวัติแพ้ไข่อย่างรุนแรง

2.วัคซีนป้องกันการติดเชื้อนิวโมคอคคัส (PNEUMOCOCCAL VACCINE)

เมื่อเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอีในระบบทางเดินหายใจ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงต่างๆ ตามมา เช่น การติดเชื้อในกระแสโลหิต การติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมอง เป็นต้น วัคซีนชนิดนี้มี 2 ชนิดที่ใช้ในผู้สูงอายุ คือ ชนิด 23 สายพันธุ์ (PPSV-23) และ ชนิด 13 สายพันธุ์ (PCV-13)

คำแนะนำ ฉีดชนิด PCV-13 1 เข็ม และตามด้วยชนิด PPSV-23 1 เข็ม ห่างกัน 8 สัปดาห์ นอกเหนือจากแนะนำฉีดในผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี ขึ้นไปแล้ว ควรฉีดในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ ด้วย ได้แก่ 1) ผู้ที่ไม่มีม้ามหรือม้ามทำงานบกพร่อง 2) ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น เบาหวานที่คุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ดี โรคหัวใจวาย โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เป็นต้น 3) ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ได้รับยากดภูมิคุ้มกันยาสเตียรอยด์ขนาดสูง เปลี่ยนถ่ายอวัยวะหรือไขกระดูก 4) ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ หรือเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง

3.วัคซีนรวมป้องกัน โรคคอตีบและบาดทะยัก (DIPHTHERIA AND TETANUS VACCINE: Td)

หรือวัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก และไอกรน (Tdap)

ในประเทศไทยยังมีการพบการระบาดของโรคคอตีบเป็นระยะ จึงมีการแนะนำและส่งเสริมให้ฉีดวัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบและบาดทะยัก (Td) หรือ วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก และไอกรนชนิดไร้เซลล์ (Diphtheria-Tetanus-acellular Pertussis Vaccine : Tdap) เพื่อช่วยลดการเกิดแพร่เชื้อไอกรนจากผู้ใหญ่ไปสู่เด็กเล็กที่หากติดเชื้อแล้วจะมีอัตราการตายสูง

คำแนะนำ Tdap ฉีด 1 เข็ม ครั้งเดียว และ Td ฉีด 1 เข็ม ทุก 10 ปี

4.วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด (VARICELLA ZOSTER VACCINE)

โรคงูสวัดเกิดจากเชื้อไวรัสวาริเซลลา ซอสเตอร์ (Varicella Zoster Virus) ซึ่งเป็นเชื้อตัวเดียวกับที่ก่อโรคสุกใสในเด็ก เมื่อร่างกายอ่อนแอลงหรือมีภูมิคุ้มกันลดลง จะทำให้เกิดภาวะปวดที่รุนแรงและเรื้อรังตามแนวเส้นประสาทภายหลังจากผื่นงูสวัดหายไปแล้ว (Post-herpetic Neuralgia : PHN)

คำแนะนำ ฉีด 1 เข็ม ครั้งเดียว ห้ามฉีดในผู้ที่มีประวัติแพ้เจลาตินและนีโอมัยซินที่รุนแรง ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรง หรืออยู่ระหว่างการได้รับยากดภูมิคุ้มกันหรือยาสเตียรอยด์ขนาดสูง และหญิงตั้งครรภ์

ที่มา : โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
https://bit.ly/3IpLDyj


สอบถาม
เพิ่มเติมกับ
แชทบอท