เตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์
หมวดหมู่หลัก: พ่อแม่มือใหม่
หมวดหมู่ย่อย: อื่นๆ
20-03-2022 10:14
ก่อนสมรส การเลือกคู่ชีวิต ก่อนตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคนเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะความรักเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการประคับประคองให้ครอบครัวสามารถอยู่ร่วมกันไปได้อย่างราบรื่น การเรียนรู้ซึ่งกันและกันอย่างเปิดเผยจะช่วยให้ทั้งคู่สามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
ก่อนสมรส การเลือกคู่ชีวิต ก่อนตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคนเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะความรักเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการประคับประคองให้ครอบครัวสามารถอยู่ร่วมกันไปได้อย่างราบรื่น การเรียนรู้ซึ่งกันและกันอย่างเปิดเผยจะช่วยให้ทั้งคู่สามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
สิ่งที่ต้องเรียนรู้ประกอบด้วย
- อุปนิสัยใจคอ ความรับผิดชอบ การดูแลเอาใจใส่ และวิถีชีวิต
- พื้นฐานครอบครัว
- พื้นฐานการศึกษา
- เศรษฐกิจ ฐานะการเงิน
- สุขภาพ โรคติดต่อหรือโรคทางพันธุกรรมที่อาจส่งผลต่อครอบครัวในอนาคต และที่สำคัญ ถามใจตัวเองเสมอว่าคนที่เลือกคือ “คนที่ใช่” คนที่พร้อมจะดูแล “ร่วมทุกข์ ร่วมสุข” หรือไม่
ช่วงวัยที่มีแนวโน้มที่เหมาะสมต่อการมีบุตร ผู้หญิงควรมีอายุระหว่าง 20-34 ปี เพราะร่างกายมีความสมบูรณ์แข็งแรง มีเรี่ยวแรงในการเลี้ยงดูบุตร มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ และมีเสถียรภาพทางการเงิน การเตรียมความพร้อมควรปฏิบัติดังนี้
1. การเตรียมความพร้อมด้านร่างกาย
- หญิงวัยเจริญพันธุ์ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควรทานอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็กสูง ได้แก่ ตับ เลือด เนื้อสัตว์ เนื้อแดงต่าง ๆ เครื่องในสัตว์ ไข่แดง อาหารทะเล ผักใบเขียวเข้ม ถั่วดำ ถั่วแดง ข้าวโอ๊ต เป็นต้น
- กินวิตามินเสริมธาตุเหล็กและกรดโฟลิก (เฟอร์โรโฟลิก) เพื่อช่วยลดภาวะซีด และลดความเสี่ยงของทารกพิการแต่กำเนิด
- เลิกบุหรี่ อย่างน้อย 3 เดือนก่อนการตั้งครรภ์
- เลิกดื่มสุรา อย่างน้อย 1 เดือนก่อนการตั้งครรภ์
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- หยุดการคุมกำเนิดทุกวิธี
- มีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ (สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง)
- รักเดียวใจเดียว
- ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์
2. การดูแลสุขภาพช่องปาก
หญิงที่วางแผนตั้งครรภ์ ควรรับการตรวจสุขภาพช่องปากเพื่อรับการรักษา ลดความเสี่ยงการติดเชื้อในช่องปาก เพราะการมีฟันผุ เหงือกอักเสบและเป็นโรคปริทันต์ มีผลต่อคุณภาพชีวิตของคุณแม่ขณะตั้งครรภ์รวมถึงผลลัพธ์ของการตั้งครรภ์ เช่น การคลอดก่อนกำหนด เด็กเกิดมามีน้ำหนักน้อยกว่า 2,500 กรัม
ข้อควรปฏิบัติ
– รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ลดการรับประทานอาหารหวาน เน้นการรับประทานผักและผลไม้
– แปรงฟัน 2 2 2 คือแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ นาน 2 นาที ไม่รับประทานอาหาร เครื่องดื่ม หลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมง
– ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อย วันละ 1 ครั้ง
– ควรได้รับการตรวจฟันทุก 6 เดือน และไปรับบริการทันตกรรมตามคำแนะนำ
3.การดูแลสุขภาพจิต
– พักผ่อนอย่างเพียงพอ
– หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่นำไปสู่ความเครียดและทำให้เกิดความวิตกกังวล เช่น รู้สึกเบื่อเซ็ง ไม่อยากพบปะผู้คน มีปัญหาการนอน นอนไม่หลับหรือนอนมาก มีสมาธิน้อยลง หงุดหงิด กระวนกระวาย ว้าวุ่นใจ
– สนับสนุนและเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันระหว่างคู่รัก
4.การดูแลสุขภาพการเงินและสังคม
การเก็บออม หรือการศึกษาเรื่องการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมีลูก 1 คน ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากมายเลยทีเดียว – วางแผนการเงิน เช่น การออมเงิน ฯลฯ – เตรียมผู้ดูแลหลักในการเลี้ยงดูบุตร
5.การป้องกันตนเองจากปัญหาสิ่งแวดล้อม
สภาพอากาศไม่ดี ส่งผลต่อลูกน้อยได้เช่นกัน จึงนำข้อปฏิบัติง่ายๆมาฝากกัน เริ่มทำตามง่ายๆ โดย
– หลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่น ขนาด2.5 ไมครอน ขณะตั้งครรภ์ช่วง 3 เดือนแรก
– รับประทานอาหารทะเลและปลาน้ำลึกปริมาณมาก ๆ ขณะตั้งครรภ์ช่วง 3 เดือนแรก
– หลีกเลี่ยงการสัมผัสและฉีดพ่นสารเคมี (สารเคมีจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อน้ำหนักแรกเกิดน้อย การเจริญเติบโตของทารกและขนาดเส้นรอบศีรษะผิดปกติ)
ที่มา : ศูนย์สื่อสารสาธารณะ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
https://multimedia.anamai.moph.go.th/help-knowledgs/pregnant-planning/