ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับโภชนาการสำหรับเด็กในวัยเรียน

เด็กวัยเรียนในช่วงอายุ 6-12 ปี เป็นวัยที่กำลังเตรียมพร้อมเข้าสู่ช่วงการเจริญเติบโตทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญาและจิตใจ จึงต้องได้รับการดูแลที่เหมาะสมกับช่วงวัย เรื่องอาหารการกินเป็นอีกสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กให้พร้อมเติบโตได้อย่างสมบูรณ์

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับอาหารที่ส่งผลเสียต่อเด็กในวัยเรียน

1. กินแต่ข้าวกับเนื้อสัตว์ปรุงสุกเยอะๆ ถึงจะดี การทานแต่ข้าวกับเนื้อสัตว์อาจทำให้เด็กได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ซึ่งเด็กจะได้รับเพียงคาร์โบไฮเดรตจากข้าวและโปรตีนจากเนื้อสัตว์เท่านั้น เด็กยังต้องการคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินและแร่ธาตุ ไขมัน เพื่อเป็นพลังงานในการใช้ชีวิตประจำวัน
2. อาหารฟาสต์ฟู้ดกินเมื่อไหร่ก็ได้ ปัจจุบันอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด (อาหารที่ได้รับสมญานามว่าเป็น “อาหารขยะ”) เกิดขึ้นมากมายทั้งรูปแบบของร้านอาหารไปจนถึงอาหารแบบแช่แข็งที่หลายครอบครัวเลือกให้ลูกกินในชั่วโมงเร่งด่วน ทำให้เด็กได้รับสารอาหารที่ไม่ครบถ้วนและยังได้รับสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเด็กในระยะยาว เกิดโรคอ้วนได้ง่ายอีกด้วย
3. ให้กินขนมหวานหลังมื้ออาหาร ขนมหวานอีกหนึ่งอันตรายใกล้ตัวเด็ก ถ้ากินบ่อยๆ หรือกินในปริมาณมาก เด็กจะติดรสชาติหวานซึ่งส่งผลให้เด็กอยากกินขนมหวานบ่อยขึ้นหรือชอบกินอาหารที่มีรสชาติหวานมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือจะทำให้ฟันผุและอาจก่อให้เกิดโรคอ้วนได้ นอกจากจะส่งผลต่อสภาพร่างกายแล้วยังส่งผลต่อด้านอารมณ์ของเด็กที่ทำให้สมาธิสั้น โกรธและฉุนเฉียวง่ายขึ้นอีกด้วย
4. วิตามินเสริมทดแทนอาหารหลักได้ เมื่อเด็กได้รับวิตามินเสริมเป็นระยะเวลานานจะส่งผลต่ออวัยวะภายในซึ่งเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ทางที่ดีควรปลูกฝังเด็กให้กินผักและผลไม้สดตั้งแต่ยังเด็กเพื่อให้วิตามินจากธรรมชาติที่หลากหลาย ได้มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของเด็กและช่วยในการป้องกันโรคได้

ที่มา : ศูนย์สื่อสารสาธารณะ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
https://multimedia.anamai.moph.go.th/help-knowledgs/4-misconceptions-parents-have-about-kids-nutrition/