เมื่อลูกเป็นโรคซึมเศร้า
หมวดหมู่หลัก: พ่อแม่มือใหม่
หมวดหมู่ย่อย: เจ็บป่วยทั่วไป
20-03-2022 08:49
โรคซึมเศร้า ถือเป็นโรคความผิดปกติทางอารมณ์ สำหรับเด็กและวัยรุ่น อาการของโรคซึมเศร้าอาจไม่ได้แสดงออกมาชัดเจนในรูปแบบการเศร้า หรือ ร้องไห้ แต่อาจมีอาการ หงุดหงิดก้าวร้าว เก็บตัว มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป จนก่อให้เกิดปัญหาต่อชีวิตประจำวันหรือการเรียน
โรคซึมเศร้า ถือเป็นโรคความผิดปกติทางอารมณ์ สำหรับเด็กและวัยรุ่น อาการของโรคซึมเศร้าอาจไม่ได้แสดงออกมาชัดเจนในรูปแบบการเศร้า หรือ ร้องไห้ แต่อาจมีอาการ หงุดหงิดก้าวร้าว เก็บตัว มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป จนก่อให้เกิดปัญหาต่อชีวิตประจำวันหรือการเรียน เช่น การเล่นเกมมากขึ้น หรือ ติด social มากขึ้น เป็นต้น ในเด็กที่พัฒนาการการสื่อสารหรือการรับรู้อารมณ์ตนเองยังไม่ดีนัก อาจมาด้วยอาการ เจ็บป่วยทางกาย เช่น ปวดหัว ปวดท้อง หรือมี พฤติกรรมถดถอยกลับไปสู่วัยเด็กเล็ก เช่น พฤติกรรมงอแง อาละวาด หรือ ไม่อยากไปโรงเรียน เป็นต้น
สาเหตุที่ทำให้ลูกเป็นโรคซึมเศร้า
- พันธุกรรม เด็กที่พ่อแม่มีภาวะซึมเศร้า จะมีอัตราการเกิดภาวะซึมเศร้าได้สูงกว่าเด็กทั่วไป
- สารเคมีในสมอง ผู้ป่วยภาวะซึมเศร้าจะมีการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติ ทำให้ส่งผลต่อการควบคุมอารมณ์ ร่างกาย และจิตใจ
- ปัจจัยแวดล้อมภายนอก หรือ ปัญหาทางจิตสังคม เช่น ปัญหาการเลี้ยงดู ความรุนแรงในครอบครัว การเลี้ยงดู การถูกกลั่นแกล้ง
- มุมมองต่อตนเอง เด็กที่มีความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ และเด็กที่มีความวิตกกังวลสูง จะมีอัตราการเกิดภาวะซึมเศร้าได้สูงกว่าเด็กทั่วไป ทำให้เด็กหนีปัญหา โทษตัวเองซ้ำๆ และมองโลกในแง่ร้าย
- ปัจจัยโรคทางกายอื่นๆ โรคทางกายหรือยาบางชนิด ส่งผลต่อฮอร์โมน และสารเคมีในสมองทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ นอกจากนี้เด็กที่มีภาวะโรคเรื้อรัง ไม่สามารถใช้ชีวิตตามวัยได้ตามปกติก็มีโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้าได้ด้วย
การดูแลและการรักษา เมื่อสงสัยว่าลูกเป็นโรคซึมเศร้า
- พ่อแม่จำเป็นต้องทำจิตใจตนเองให้สงบและพร้อมต่อการรับฟังเรื่องต่างๆของลูก
- หาบรรยากาศที่สงบ ผ่อนคลาย พูดคุยถึงอาการที่พ่อแม่สังเกตเห็นและสะท้อนให้ลูกเข้าใจถึงความห่วงใย ความพร้อมที่จะเข้าใจและช่วยเหลือของพ่อแม่
- เปิดโอกาสให้เด็กพูดและระบายความรู้สึกโดยไม่แย้งหรือรีบสอน
- หากพบว่าเด็กมีภาวะซึมเศร้าให้ชักชวนลูกมารับการรักษากับจิตแพทย์ และหากพบความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย ให้พ่อแม่คอยเฝ้าระวังพฤติกรรมของลูก เก็บของมีคม สารเคมี ยาหรืออุปกรณ์ต่างๆที่เด็กสามารถใช้ในการทำร้ายตนเอง
- และไม่ปล่อยเด็กไว้ตามลำพัง และรีบพามาพบแพทย์
พ่อแม่จะทำอย่างไรเมื่อลูกเป็นโรคซึมเศร้า
- ยอมรับภาวะที่ลูกเป็น และไม่โทษอดีตที่ผ่านมา
- รับฟังปัญหาของลูกอย่างเข้าใจ เปิดใจ และอยู่เป็นเพื่อนในยามที่ลูกไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ตนเองได้ ไม่ปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่ตามลำพัง
- กระตุ้น และสนับสนุนให้ลูกทำกิจวัตรประวันได้ตามปกติมากที่สุด และอาจชักชวนให้ผู้ป่วยออกไปข้างนอก ลดการเก็บตัว และออกกำลังกายซึ่งจะช่วยให้การรักษาดีขึ้น
- คอยดูแลเรื่องการกินยาของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
- ประเมินภาวการณ์ฆ่าตัวตาย จากการสังเกต และสอบถามเมื่อสงสัย หากมีความเสี่ยงให้ปฏิบัติดังข้อที่กล่าวไปแล้ว
- ดูแลสุขภาพกาย และใจของตนเองและคนในครอบครัวคนอื่นๆให้เป็นปกติ เนื่องจากการดูแลผู้ป่วยโรคซึมเศร้าต้องใช้พลังกายและใจสูง ทุกคนในครอบครัวจึงจำต้องต้องมีสุขภาพกายใจที่ดีอยู่เสมอ หากพ่อแม่สงสัยว่าตนเองมีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วยควรปรึกษาจิตแพทย์
ตัวอย่างคำถามที่ใช้ในการประเมินความเสี่ยงในการฆ่าตัวตาย :
- แม่รู้ว่าหนูเศร้ามาก ความเศร้าของหนูทำให้หนูเคยคิดฆ่าตัวตายเลยไหม
- แม่เห็นว่าลูกเครียดมาก ลูกเคยมีความคิดอยากหายไปจากโลกนี้เลยไหม แล้วในความคิดของลูกลูกใช้วิธีอะไรในการหายไปจากโลกนี้หละ
การถามคำถามประเมินความเสี่ยงในการฆ่าตัวตาย จำเป็นต้องถามอย่างใจเย็น ให้เด็กได้เล่าอย่างผ่อนคลายและเปิดใจ อย่าแสดงท่าทีตื่นตกใจหรือตำหนิต่อว่า จากการศึกษาพบว่า “การที่เด็กได้รับการประเมินจะช่วยป้องกันการฆ่าตัวตายในเด็กได้ดีกว่าการไม่ถาม”
ที่มา: สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์
https://bit.ly/3wrMdan