ปวดหัวจากความเครียด

โรคนี้พบได้ในทุกวัย มักเริ่มมีอาการครั้งแรกตั้งแต่วัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาว (มีโอกาสน้อยมากที่จะมีอาการครั้งแรกหลังอายุ 50 ปี) และพบมีอาการกำเริบบ่อยในช่วงอายุ 20-50 ปี พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 1.5-2 เท่า

สาเหตุที่ทำให้ปวดหัว

• กล้ามเนื้อรอบๆ ศีรษะมีการเกร็งตัวซึ่งเป็นผลมาจากความเครียด คร่ำเคร่งกับงาน
• เกิดจากความหิว อดนอน อ่อนเพลีย

อาการปวดหัวจากความเครียด

• ปวดที่ศีรษะเล็กน้อยถึงปานกลาง ปวดดื้อๆ ปวดบีบๆ รู้สึกเหมือนมีอะไรมารัดศีรษะ
• เจ็บแปล๊บๆ ที่หนังศีรษะ บางคนปวดข้างเดียว
• อาการปวดลามมาที่กระบอกตา คล้ายไมเกรนแต่มักไม่มีอาการทางระบบประสาท เช่น ไม่มีอาการทางสายตา ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย
• อาจมีอาการเป็นครั้งคราว นานๆ ปวดครั้ง แต่ละครั้งอาจปวดนานเป็นชั่วโมง หรือเป็นวัน
• ในผู้ป่วยบางคนอาจปวดเรื้อรัง ปวดแทบทุกวัน เดือนหนึ่งๆ ปวดมากกว่า 15 วัน กรณีอย่างนี้ อาจมีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย

ปวดหัวทำอย่างไรจะหาย
การกินยาช่วยแก้อาการปวดหัวได้ แต่บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องกินยา เพียงลองทำวิธีดังนี้

• พัก อยู่ในที่เงียบๆ ไม่มีสิ่งรบกวน ทั้งเรื่องแสง เสียง ความร้อนอุณหภูมิ
• ใช้ความเย็น (น้ำแข็ง) ประคบศีรษะ ต้นคอ แต่คนไข้บางคนชอบใช้กระเป๋าน้ำร้อนมากกว่า
• การนวดแถวต้นคอ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการปวดต้นคอร่วมกับการปวดหัว ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย
• ทำจิตใจให้สงบ เข้าสมาธิ บังคับตัวเองให้คิดถึงสิ่งดีๆ คำพูดดีๆ ของเพื่อน หรือของใครก็ตามที่ทำให้เรายิ้มได้ หัวเราะได้
• จิบเครื่องดื่มที่ชอบโดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน เพราะกาเฟอีนมีฤทธิ์ลดอาการปวดหัวได้

ที่มา : กรมสุขภาพจิต
https://www.dmh.go.th/news/view.asp?id=2401