นอนกรน อันตรายแค่ไหน
หมวดหมู่หลัก: ดูแลตัวเองและครอบครัว
หมวดหมู่ย่อย: เจ็บป่วยทั่วไป
18-03-2022 09:00
เสียงกรนเป็นอาการที่บ่งบอกถึงการตีบแคบของทางเดินหายใจส่วนต้น ซึ่งอาจเป็นตั้งแต่จมูก ช่องลำคอ โคนลิ้น หรือบางส่วนของกล่องเสียงซึ่งเกิดจากการหย่อนตัวลงในขณะหลับ จนทำให้เมื่อลมหายใจผ่านเนื้อเยื่อดังกล่าว เกิดการสั่นสะเทือนและมีเสียงดังขึ้น หากบางครั้งเกิดการตีบแคบมากขึ้นจนอุดกลั้นลมหายใจทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถหายใจเข้าออกได้เป็นระยะ ๆ ซึ่งเราเรียกลักษณะดังกล่าวว่า “โรคหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea, OSA)” หรือ “โรคหยุดหายใจขณะหลับ”
เสียงกรนเป็นอาการที่บ่งบอกถึงการตีบแคบของทางเดินหายใจส่วนต้น ซึ่งอาจเป็นตั้งแต่จมูก ช่องลำคอ โคนลิ้น หรือบางส่วนของกล่องเสียงซึ่งเกิดจากการหย่อนตัวลงในขณะหลับ จนทำให้เมื่อลมหายใจผ่านเนื้อเยื่อดังกล่าว เกิดการสั่นสะเทือนและมีเสียงดังขึ้น หากบางครั้งเกิดการตีบแคบมากขึ้นจนอุดกลั้นลมหายใจทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถหายใจเข้าออกได้เป็นระยะ ๆ ซึ่งเราเรียกลักษณะดังกล่าวว่า “โรคหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea, OSA)” หรือ “โรคหยุดหายใจขณะหลับ”
โรคหยุดหายใจขณะหลับทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้หลายอย่าง ดังนี้
- เป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง หรืออัมพฤกษ์และอัมพาต ภาวะซึมเศร้าเรื้อรัง การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- ความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุอันเนื่องมาจากความง่วงนอนมากผิดปกติ
- เสี่ยงต่อความบกพร่องของสมรรถนะทางสมอง หรือความจำถดถอย
- ก่อให้เกิดความรำคาญต่อผู้นอนร่วมห้อง
- หากมีการหยุดหายใจขณะหลับในเด็ก อาจทำให้มีความผิดปกติของพัฒนาการทั้งทางร่างกายและสติปัญญา เกิดพฤติกรรมซุกซนก้าวร้าว ปัสสาวะรดที่นอน มีผลการเรียนที่แย่ลง หรือมีปัญหาสังคมสำหรับเด็กได้
อาการที่บ่งบอกว่าอาจเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับ
- นอนกรนดังมากเป็นประจำ จนเกิดความรำคาญต่อผู้ที่นอนร่วมห้อง
- รู้สึกนอนหลับไม่เต็มอิ่ม ตื่นบ่อย มีอาการไม่สดชื่น
- คอแห้ง
- ปวดศีรษะเป็นประจำตอนเช้า
- ง่วงนอนมากผิดปกติในระหว่างวัน
- หงุดหงิดง่าย อารมณ์ไม่ดี
- มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ
- มีผู้อื่นสังเกตเห็นว่าหายใจไม่สม่ำเสมอและมีเสียงกรนดังแต่หยุดเป็นช่วง ๆ
การตรวจวินิจฉัย
- การซักประวัติเกี่ยวกับสุขภาพการนอน รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ
- การตรวจร่างกายหาความผิดปกติศีรษะ ใบหน้า คอ จมูก และช่องปากอย่างละเอียด
- การตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องตรวจการนอนหลับ (polysomnography)
แนวทางการรักษา
- การดูและและปฏิบัติตัวเบื้องต้น ได้แก่ การปรับสุขอนามัยการนอน งดเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก่อนนอน หลีกเลี่ยงการใช้ยานอนหลับและยาคลายกล้ามเนื้อ
- ในรายที่อ้วนหรือน้ำหนักเกิน ควรลดน้ำหนัก ควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- การรักษาจำเพาะแบ่งออกเป็นสามกลุ่มใหญ่ ๆ
- การรักษาด้วยเครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP) โดยมีหลักการคือเครื่องจะเป่าลมและใช้แรงดันลมเป็นตัวพยุง ด้วยแรงดันพอที่จะเปิดช่องทางเดินหายใจส่วนบนไว้ตลอดเวลาขณะหลับ
- การใช้เครื่องมือทันตกรรม เพื่อป้องกันลิ้นตกไปอุดกั้นทางเดินหายใจ
- การรักษาด้วยการผ่าตัด
ที่มา : ศูนย์ตรวจการนอนหลับกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยมหิดล
https://www.gj.mahidol.ac.th/main/knowledge-2/snoring/