ทำไมชีวิตแต่งงานจึงล้มเหลว

สังคมปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมาก จากอดีตที่เปอร์เซ็นต์การหย่าร้างแทบจะไม่มีให้เห็นเลย แต่เดี๋ยวนี้กลับมีมากขึ้นจนน่าตกใจ มองไปทางไหนก็มีแต่คนเลิกกัน หย่าร้างกัน จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว

เมื่อสังคมเราเจริญขึ้น ผู้หญิงต่างก็มีสิทธิมีเสียงกันมากขึ้น อีกทั้งเรายังรับวัฒนธรรมของต่างชาติเข้ามามาก จนลืมสำรวจกันว่ามันเข้ากับวิถีชีวิตของเราหรือไม่ ทีนี้ปัญหาก็ตามมา แล้วหนึ่งในนั้นก็เป็นปัญหาครอบครัวที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาอื่นๆ ในสังคมอีกมากมาย รู้อย่างนี้แล้ว เรามาย้อนดูปัญหา แล้วหาทางป้องกันกันไว้ก่อนดีกว่าค่ะ

1.อายุยังน้อย
คู่รักที่แต่งงานกันเมื่ออายุน้อยเกินไป ทั้งสองคนขาดทั้งวัยวุฒิและความพร้อมในด้านต่างๆ ที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน เพราะการใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ใครคิดจะอยู่ด้วยกันก็สามารถอยู่กันได้ มันมีตั้งแต่ปัญหาจุกจิกยันปัญหาโลกแตก ผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์การใช้ชีวิตคู่หลายคนพูดตรงกันว่า คนที่ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นหรืออายุ 20 ต้นๆ ยังเด็กเกินไปที่จะแต่งงานมีครอบครัว เพราะเขายังไม่ได้เรียนรู้อะไรอีกหลายๆ อย่างที่เป็นประสบการณ์ให้กับชีวิต ดังนั้นเวลาเกิดปัญหาอะไรขึ้นก็อาจจะหนักกว่าคู่อื่นๆ ที่อยู่ในวัยและวุฒิภาวะที่เหมาะสมกว่า

2.มีเด็กขึ้นมา
คู่รักที่ (จำต้อง) แต่งงานกัน เพราะดันมาท้องซะก่อน เลยหาทางออกไม่ได้ ต้องถูกมัดมือชกแต่งๆ กันไปทั้งๆ ที่ทั้งคู่อาจะยังไม่ได้รักกัน หรือศึกษาดูใจกันให้ดีก่อน การป้องกันให้ถูกวิธี เพราะไม่เพียงแต่จะป้องกันการตั้งครรภ์เท่านั้น ยังป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วยจ๊ะ

3.มีแรงกดดัน
ความกดดันหรือแรงเชียร์ของบรรดาเพื่อนฝูงและครอบครัวที่หวังดี อยากให้คุณได้แต่งงานกับคนที่พวกเขาคิดว่า ‘ดี’ โดยอาจมองข้ามคำว่า ‘true love’ ไปด้วยเหมือนกัน และตราบใดที่คุณและเขาอยู่ด้วยกันโดยปราศจากความรักแล้ว ชีวิตแต่งงานก็คงอยู่ไปได้ไม่นานเช่นกัน

4.ปัญหาเศรษฐกิจ
แม้ว่าความรักจะสามารถเอาชนะอุปสรรคทุกอย่างได้ก็จริง แต่บางครั้งก็ดันมาพ่ายแพ้เรื่องเงินๆ ทองๆ เพราะความขัดแย้งเรื่องเงินๆ ทองๆ มันไม่เข้าใครออกใคร จะมีตั้งแต่ปัญหาเงินทองไม่พอใช้ กัดก้อนเกลือกิน จนเกิดความเครียด ไปจนถึงใช้เงินกันอย่างฟุ่มเฟือยเอาเปรียบกัน เธอใช้มาก ฉันใช้น้อย ฉันจะซื้อสิ่งนั้น แต่เขาไม่ซื้อให้ จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาการทะเลาะเบาะแว้ง อันส่งผลไปถึงการเลิกรากันได้ในอนาคต เพราะฉะนั้นก่อนแต่งงานก็ตกลงกันให้ดีเสียก่อนนะคะ

5.อยู่กันเฉยๆ
ปัจจุบันนี้ มีคู่รักหลายคู่ที่อยู่ด้วยกันโดยไม่มีการแต่งงาน หรือจดทะเบียนสมรสเพื่อผูกมัด เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะเรารับอิทธิพลของตะวันตกมาซะมาก จึงทำให้ความสัมพันธ์เปราะบาง หรือบางครั้งก็ตัดสินใจทำอะไรลงไปด้วยอารมณ์ โดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงปัจจัยอะไรทั้งสิ้น คิดจะเลิกก็เลิก คิดจะรักก็รัก คิดจะอยู่ด้วยกันก็อยู่ และในเมื่อไม่มีกฎหมายอะไรมาเป็นข้อผูกมัด จึงไม่ต้องแคร์ว่าจะแบ่งสมบัติหรือสินสมรสยังไงให้ยุ่งยาก และหากมีลูกด้วยกันแล้วปัญหามันจะมาตกอยู่ที่ลูกแทน

6.สื่อสารล้มเหลว
การใช้ชีวิตคู่ก็เหมือนลิ้นกับฟัน บ้างก็เรื่องเล็กน้อยจุกจิกที่ทะเลาะกันประเดี๋ยวประด๋าวก็กลับมาคืนดีกัน บ้างก็ปัญหาใหญ่โตที่ยากจะจบลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความอดทนของแต่ละฝ่ายว่าจะมีต่อกันมากน้อยแค่ไหน จะยอมกัน ให้อภัยกันได้ไหม หากไม่ได้ ชีวิตคู่ก็คงต้องจบลงแบบกู่ไม่กลับเป็นแน่ ทางที่ดีต้องรู้จักแชร์เรื่องราวต่างๆ ร่วมกัน ตั้งแต่ปัญหาไปจนถึงความหวัง และความฝัน เพื่อให้คุณทั้งสองเข้าใจตรงกันถึงสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ดิฉันเชื่อว่าคงช่วยให้ความขัดแย้งลดลงไม่มากก็น้อยค่ะ

รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นกับคุณเชียวล่ะ คำว่าถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรจะได้ใช้กับคู่รักในสมัยนี้ได้เสียที

ที่มา : มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว
https://bit.ly/3M2bIsG