7+1 เทคนิคป้องกันโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ
หมวดหมู่หลัก: ผู้สูงวัย
หมวดหมู่ย่อย: เจ็บป่วยทั่วไป
08-04-2023 08:40
ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มวัยที่มีความเปราะบาง มีโรคประจำตัว มีความเสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะโรคสมองเสื่อมอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ความสามารถทางสติปัญญาลดลง คิดหรือจำไม่ได้ มีอาการหลงลืม
ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มวัยที่มีความเปราะบาง มีโรคประจำตัว มีความเสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะโรคสมองเสื่อมอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ความสามารถทางสติปัญญาลดลง คิดหรือจำไม่ได้ มีอาการหลงลืม การใช้ภาษาและพฤติกรรมที่ผิดปกติ รวมถึงอารมณ์เปลี่ยนไป ซึ่งอัตราการพบโรคสมองเสื่อม ในผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น เช่น อายุมากกว่า 65 ปี พบผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ร้อยละ 5-8 อายุมากกว่า 85 ปีขึ้นไป พบร้อยละ 30 อายุ 90 ปีขึ้นไป พบร้อยละ 50 เป็นต้น
แนวทางการดูแลผู้สูงอายุ ด้วยเทคนิค 7+1 ป้องกันโรคสมองเสื่อม ประกอบไปด้วย
- กินดี ผู้สูงอายุควรได้รับปริมาณอาหารที่เหมาะสม โดยควรบริโภคข้าวหรือแป้งวันละ 7-9 ทัพพี ผักวันละ 4 ทัพพี ผลไม้วันละ 1-3 ส่วน เนื้อสัตว์วันละ 6-8 ช้อนกินข้าว นมวันละ1-2 แก้ว และหลีกเลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม
- ฟันดี ผู้สูงอายุควรเลือกใช้แปรงสีฟันที่ขนอ่อนนุ่ม ปลายขนแปรงมนเน้นการแปรงบริเวณขอบเหงือก คอฟัน เป็นพิเศษ แปรงให้ทั่วถึงทุกซี่ ทั้งด้านนอกที่ติดพุ้งแก้มและด้านในที่ติดกับลิ้นหรือเพดาน รวมทั้งด้านบดเคี้ยว แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์อย่างน้อยวันละ 2 ครั้งๆ ละ 2 นาที
- ตาดี ผู้สูงอายุนั้นเป็นวัยที่มักจะประสบปัญหาด้านสายตา โดยเฉพาะอาการสายตายาว ซึ่งทำให้ไม่สามารถมองเห็นภาพระยะใกล้ได้ชัดเจน จึงควรพบจักษุแพทย์เป็นประจำ เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลดวงตาที่ถูกต้อง ชะลออาการเสื่อมของสายตา
- เคลื่อนไหวดี ผู้สูงอายุควรออกกำลังกายเพื่อชะลอการเสื่อมของกระดูกและกล้ามเนื้อต่างๆ ด้วยการเดินอย่างน้อยวันละ 5,000 ก้าว เพื่อป้องกันการหกล้ม เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อให้ทรงตัวดีขึ้น การเดิน 6,000 ก้าวต่อวัน ป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และหากมีการเดินเพิ่มมากขึ้นเป็นวันละ 7,000 – 10,000 ก้าว จะช่วยป้องกันโรคไม่ติดต่อ และเพิ่มสมรรถภาพทางกายให้ดีขึ้น ช่วยให้ผู้สูงอายุมีการเคลื่อนไหวที่ดี ป้องกันการหกล้ม ใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง ช่วยเหลือตนเองได้ และเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี
- สภาพแวดล้อมดี ควรจัดบ้านให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ เช่น จัดวางของในบ้านให้เป็นที่ระเบียบ สะอาด ไม่มีสิ่งกีดขวางทางเดิน ปูพื้นห้องน้ำด้วยพื้นหยาบและมีราวจับ ป้องกันการหกล้ม
- อารมณ์ดี ควรให้ผู้สูงอายุได้พบปะร่วมกิจกรรมในชมรมผู้สูงอายุ ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ออกกำลังกาย เข้าวัด ทำบุญ เพื่อให้ผู้สูงอายุไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือถูกทอดทิ้ง
- สมองดี หากผู้สูงอายุได้บริโภคอาหารที่ดี มีสภาพจิตใจดี สภาพแวดล้อมดี ก็จะช่วยให้สมองนั้นดีตามไปด้วย
- การนอนหลับที่ดี ผู้สูงอายุควรนอนหลับให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายมีการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ป้องกันการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคซึมเศร้า โรคสมองเสื่อม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการมีสุขภาพดี
ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/02/187665/