การดูแลตัวเองหลังผ่าคลอด

การดูแลตัวเองหลังผ่าคลอดเป็นเรื่องสำคัญ คุณแม่ที่คลอดด้วยการผ่าคลอดนั้นควรศึกษาไว้ เพราะหลังจากผ่าคลอดจะฟื้นตัวช้ากว่าการคลอดเองตามธรรมชาติ

วิธีดูแลตัวเองหลังผ่าคลอด

1. สังเกตว่าตัวเองมีไข้หรือไม่ ไข้สูงแค่ไหน เพราะอาจมีการอักเสบจากแผล หรือมดลูกอักเสบ หรือแม้แต่อาการคัดเต้านมก็ทำให้มีไข้ได้
2. สังเกตว่าแผลที่ผ่าตัดมีอาการบวมแดงหรือไม่ ปกติแล้วหลังจากผ่าคลอดแผลผ่าคลอดจะดีขึ้นเรื่อย ๆ เวลาเดินก็อาจจะเป็นบ้างแต่อาการจะค่อย ๆ หายไปเอง แต่ถ้าเหมือนมีอาการหนักขึ้นให้รีบแจ้งคุณหมอทันที
3. เวลาลุกหรือนั่งเตียงให้ตะแคงตัวเท่านั้น ค่อย ๆ ใช้มือยันตัวลุกขึ้นในท่าตะแคงหรือนอนลงก็ควรใช้ท่านี้ เพราะท่านี้จะไม่ทำให้คุณแม่เจ็บแผลมาก
4. เวลานอนควรปรับเตียงให้หัวสูงขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อให้แผลตรงหน้าท้องหย่อนไม่ตึง จะได้ไม่เจ็บแผลมาก
5. มดลูกข้างในต้องไม่ปวดมากขึ้น แต่จะรู้สึกว่ามีการบีบตัวของมดลูก เพราะหลังคลอดแล้วมดลูกจะบีบตัวเพื่อกลับสู่อุ้งเชิงกราน ยิ่งให้ลูกดูดนม มดลูกก็จะยิ่งบีบตัวกลับคืนสู่สภาพเดิมเร็วขึ้น ประมาณ 2 สัปดาห์ มดลูกก็จะเข้าสู่สภาพเดิม เมื่อลองคลำดูก็จะไม่พบก้อนมดลูก แต่สิ่งที่ต้องระวัง คือ การตกเลือด เพราะเป็นเรื่องอันตรายที่สุดสำหรับคุณแม่ผ่าคลอด ถ้ามดลูกบีบตัวไม่ดีอาจทำให้ตกเลือดได้
6. สำหรับคุณแม่ผ่าคลอด หลังจากผ่าคลอด และนอนพักผ่อน ในวันแรกอาจจะยังไม่รู้สึกว่ามีน้ำคาวปลาไหลออกมามาก แต่พอลุกขึ้นจากเตียงอาจจะมีน้ำคาวปลาไหลทะลักออกมาพร้อมเลือดเป็นก้อน ๆ ซึ่งคุณแม่ไม่ต้องตกใจ นั่นเป็นเรื่องปกติของคุณแม่ผ่าคลอด ไม่ใช่อาการตกเลือด น้ำคาวปลา 3 วันแรกจะมีสีแดงสดและจะค่อย ๆจางลงเรื่อย ๆ จนหมดไปเอง สำหรับคุณแม่ผ่าคลอดน้ำคาวปลาจะน้อยกว่าคุณแม่คลอดเองเพราะตอนผ่าคลอดคุณหมอจะใช้ผ้าสะอาด ๆ เช็ด และทำความสะอาดเยื่อบุต่าง ๆ ในโพรงมดลูกให้แล้ว

ที่มา : maerakluke https://bit.ly/3K5Bo68