Facebook หมอชาวบ้าน Youtube หมอชาวบ้าน


โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

< กลับหน้าหลัก

กินให้เป็นสร้างคอลลาเจนได้


หมวดหมู่หลัก: ดูแลตัวเองและครอบครัว

หมวดหมู่ย่อย: อาหารเสริมสุขภาพ

15-03-2022 11:53

คอลลาเจน โปรตีนที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง โดยมีสัดส่วนสูงถึง 80% โดยคอลลาเจนจะอยู่ที่ผิวหนังชั้นล่าง (ชั้นหนังแท้ หรือ dermis) ซึ่งการทาครีมทั่วไปจะไม่มีผลถึงคอลลาเจนในผิวหนัง มีการนำคอลลาเจนมาใช้เพื่อประโยชน์ด้านการดูแลผิวพรรณ เนื่องจากเป็นส่วนประกอบของผิวหนังที่จะช่วยให้โครงสร้างผิวมีความยืดหยุ่น เรียบเนียน ทำให้มีผลิตภัณฑ์คอลลาเจนทั้งทาภายนอกและกินบำรุงจากภายในออกมามากมายเพื่อใช้ในการทดแทนคอลลาเจนที่จะสูญเสียไปเรื่อย ๆ เมื่ออายุมากขึ้น

ภาพประกอบเคส

คอลลาเจน โปรตีนที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง โดยมีสัดส่วนสูงถึง 80% โดยคอลลาเจนจะอยู่ที่ผิวหนังชั้นล่าง (ชั้นหนังแท้ หรือ dermis) ซึ่งการทาครีมทั่วไปจะไม่มีผลถึงคอลลาเจนในผิวหนัง มีการนำคอลลาเจนมาใช้เพื่อประโยชน์ด้านการดูแลผิวพรรณ เนื่องจากเป็นส่วนประกอบของผิวหนังที่จะช่วยให้โครงสร้างผิวมีความยืดหยุ่น เรียบเนียน ทำให้มีผลิตภัณฑ์คอลลาเจนทั้งทาภายนอกและกินบำรุงจากภายในออกมามากมายเพื่อใช้ในการทดแทนคอลลาเจนที่จะสูญเสียไปเรื่อย ๆ เมื่ออายุมากขึ้น

โดยปกติแล้วร่างกายจะมีการสร้างและสลายคอลลาเจนในปริมาณที่สมดุลกัน แต่เมื่อเรามีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป การสร้างคอลลาเจนก็จะลดลงประมาณร้อยละ 1 ต่อปี ในขณะที่อัตราการสลายคอลลาเจนยังเท่าเดิม ทำให้ปริมาณคอลลาเจนในร่างกายลดลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้ความแข็งแรงของผิวลดลงเมื่ออายุมากขึ้น โดยเป็นอย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า “คอลลาเจนใต้ผิวหนังลดลงก็จะเกิดริ้วรอย” นั่นเอง

เราสามารถเลือกการกินอาหารให้ดีเพื่อที่จะช่วยชะลอการสลายและมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนให้เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย

นี่คือ 6 เทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คอลลาเจนในร่างกายอยู่กับเราไปนาน ๆ

  1. กินโปรตีนต่อวันต้องเพียงพอ ทำให้สร้างคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่ โดยการกินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ นม ไข่ หรือ ธัญพืชต่าง ๆ ให้เพียงพอความต้องการต่อวัน หรือ 1 – 1.2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ถ้าหากเรามีน้ำหนักตัวที่ 50 กรัม แสดงว่าเราต้องกินโปรตีนให้ได้ 50 - 60 กรัมต่อวัน หรือเทียบเท่ากับการเลือกกินเนื้อสัตว์ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ ปลา ให้ได้รวม ๆ กันประมาณ 200 - 250 กรัมนั่นเอง เพื่อที่ร่างกายจะนำคอลลาเจนไปใช้ประโยชน์ต่อสภาพผิว ข้อเข่า หรือมวลกระดูก แทนการนำไปปรับสมดุลของโปรตีนในร่างกายนั่นเอง
  2. กินอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินซี เพราะวิตามินซีช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญที่ช่วยชะลอการสลายของคอลลาเจน โดยแหล่งของวิตามินซี คือ ผักและผลไม้ต่าง ๆ เช่น ฝรั่ง ผักคะน้า บรอกโคลี สตรอเบอร์รี่ ส้ม แอปเปิลแดง มะนาว เบอร์รี่ชนิดต่าง ๆ เป็นต้น
  3. กินอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินเอ เพราะวิตามินเอช่วยกระตุ้นการเติบโตของไฟโบรบลาสต์ (fibroblast) ที่มีหน้าที่สร้างคอลลาเจนและอิลาสตินของร่างกาย ที่ทำให้ผิวพรรณยังเต่งตึง โดยแหล่งอาหารที่มีวิตามิน เอ ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ นม ผักที่มีสีเขียวเข้มและสีเหลืองส้ม เช่น ตำลึง ผักบุ้ง แครอท มะละกอสุก เป็นต้น
  4. กินอาหารที่เป็นแหล่งวิตามินอี เพราะวิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำงานคู่กับวิตามินซี โดยแหล่งของวิตามินอี คือ น้ำมันพืชต่าง ๆ เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง นอกจากนี้ยังพบใน ถั่วอัลมอนด์ อาโวคาโด มะม่วง กีวี เป็นต้น
  5. หลีกเลี่ยงอาหารรสหวาน เพราะน้ำตาลจะทำให้เกิดกระบวนการไกลเคชัน (glycation) ที่จะส่งผลให้คอลลาเจนเสียรูปร่าง และไม่ยืดหยุ่นแบบที่ควรเป็น
  6. ดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 8 – 10 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวัน น้ำเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสร้างคอลลาเจนในร่างกาย หากดื่มน้ำไม่พอการสร้างคอลลาเจนก็จะลดลงไปด้วยนั่นเอง

การกินคอลลาเจนเพื่อดูแลผิวพรรณ อาจจะกินควบคู่ไปกับวิตามินต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี อี และเอ รวมไปถึงดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน เพื่อชะลอการสลายตัวและมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน และที่สำคัญต้องกินโปรตีนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายสามารถสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ข้อเข่า หรือกระดูก ได้เต็มประสิทธิภาพ

ที่มา : เครือข่ายคนไทยไร้พุง
https://bit.ly/3HO7qjE


สอบถาม
เพิ่มเติมกับ
แชทบอท