Facebook หมอชาวบ้าน Youtube หมอชาวบ้าน


โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

< กลับหน้าหลัก

ข้อควรรู้ก่อนใช้ ยายุติการตั้งครรภ์


หมวดหมู่หลัก: พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว

หมวดหมู่ย่อย: เจ็บป่วยทั่วไป

22-02-2023 13:40

ยายุติการตั้งครรภ์ เป็นยาที่ใช้หยุดการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในครรภ์สำหรับผู้ที่มีปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม อายุครรภ์ไม่เกิน 9 -12 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ที่ทำการรักษา

ภาพประกอบเคส

ยายุติการตั้งครรภ์ เป็นยาที่ใช้หยุดการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในครรภ์สำหรับผู้ที่มีปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม อายุครรภ์ไม่เกิน 9 -12 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ที่ทำการรักษา โดยตัวยาจะเข้าขัดขวางการทำงานของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่จำเป็นต่อการตั้งครรภ์ ทำให้ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิไม่สามารถฝั่งตัวในผนังมดลูกได้ ทำให้มดลูกเกิดการบีบตัวและขับเนื้อเยื่อออกจากมดลูก การรับประทานยายุติตั้งครรภ์อาจทำให้มีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้อาเจียนวิงเวียนศีรษะ ปวดหัว ท้องเสีย และมีเลือดออกทางช่องคลอด

ยายุติการตั้งครรภ์ที่ได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกและได้รับขึ้นทะเบียนในประเทศไทย คือ ไมโซพรอสทอล (Misoprostol) และไมเฟพริสโตน(Mifepristone) ซึ่งยาเหล่านี้เป็นยาควบคุมพิเศษ ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์เท่านั้น

ประเภทของยายุติการตั้งครรภ์ในประเทศไทย
1. ยาไมเฟพริสโตน (Mifepristone)
ยาไมเฟพริสโตน 200 มิลลิกรัม เป็นยาที่ก่อให้เกิดอาการแท้งในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ คือ ตั้งแต่ช่วงเริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงสัปดาห์ที่ 10 ของการตั้งครรภ์ หรือ 70 วันหลังจากวันแรกของรอบเดือนครั้งสุดท้าย โดยตัวยาไมเฟพริสโตนมักใช้ร่วมกับยาไมโซพรอสทอล (Misoprostol) จะเข้าไปขัดขวางฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่จำเป็นต่อการตั้งครรภ์

ผลข้างเคียง อาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ ท้องเสีย อ่อนแรง ควรพบแพทย์ทันทีหากมีอาการเกิน 24 ชั่วโมง หรือมีอาการรุนแรง เช่น มีไข้เกิน 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป ปวดท้อง หัวใจเต้นเร็ว เป็นลม

ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้ยาไมเฟพริสโตนหากมีภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก เพราะนอกจากจะไม่ช่วยยุติการตั้งครรภ์แล้ว ยังอาจทำให้มดลูกแตกส่งผลให้เกิดเลือดออกรุนแรงได้ปรึกษาคุณหมอก่อนใช้ยาโดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาต่อมหมวกไต ปัญหาเลือดออกผิดปกติ ใช้ห่วงอนามัย หรือผู้ที่ตั้งครรภ์นานกว่า 10 สัปดาห์

2.ยาไมโซพรอสทอล (Misoprostol)
ยาไมโซพรอสทอล เป็นยาที่ใช้ร่วมกับยาไมเฟพริสโตนเพื่อยุติการตั้งครรภ์ ช่วยทำให้เกิดการบีบตัวของมดลูกและขับเนื้อเยื่อออกจากมดลูก นอกจากนี้ยังใช้ในการป้องกันไม่ให้กระเพาะอาหารเป็นแผลในขณะใช้ยาชนิดอื่น เช่น ไอบูโพรเฟน แอสไพริน นาพรอกเซน (Naproxen)

ผลข้างเคียง อาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย ดังนั้นจึงควรพบคุณหมอทันทีหากอาการแย่ลงหรือมีอาการรุนแรงต่าง ๆ เช่น ภาวะขาดน้ำ ปัสสาวะน้อย วิงเวียนศีรษะ อารมณ์แปรปรวน กล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจเต้นผิดปกติ ประจำเดือนผิดปกติ มีเลือดออกทางช่องคลอด

ข้อควรระวัง แจ้งให้แพทย์ทราบหากมีประวัติการรักษาโรคกระเพาะหรือโรคลำไส้อักเสบ และหากใช้ยาไมโซพรอสทอลร่วมกับยาไมเฟพริสโตนเพื่อยุติการตั้งครรภ์แล้วมีอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดออกทางช่องคลอดยาวนาน การติดเชื้อ มีไข้ หนาวสั่น เป็นลม ควรรีบพบแพทย์ทันที

ข้อห้ามสำหรับการใช้ยายุติการตั้งครรภ์
1.ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางประการไม่ควรใช้ยาไมเฟพริสโตน และยาไมโซพรอสทอล
2.มีภาวะเลือดออกไม่หยุด หรือเป็นโรคเลือดขั้นรุนแรง
3.มีภาวะท้องนอกมดลูก
4.เป็นโรคปอดหรือโรคหอบหืดรุนแรง และต้องใช้ยาเพื่อควบคุมอาการ
5.เป็นโรคต่อมหมวกไต หรือโรคไตขั้นรุนแรง
6.ก่อนใช้ยายุติการตั้งครรภ์ ควรปรึกษาและได้รับการอนุญาตจากแพทย์ และซื้อยาจากสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือเท่านั้น

ความเสี่ยงจากการใช้ยายุติการตั้งครรภ์ การใช้ยายุติการตั้งครรภ์นั้นจะปลอดภัยเมื่อได้รับการควบคุมขนาดยา และได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ แต่หากใช้ยาผิดขนาด ผิดวิธี ใช้ยาปลอม หรือไม่ได้รับการตรวจสุขภาพและการแพ้ยาอาจมีความเสี่ยงเกิดปัญหารุนแรงได้ ดังนี้
1.หากใช้ยาเกินขนาดอาจส่งผลให้มดลูกแตกและเสียชีวิตได้
2.ผู้ที่มีภาวะสุขภาพบางชนิด เช่น ท้องนอกมดลูก โรคไต เลือดออกไม่หยุด ไม่ควรใช้ยายุติการตั้งครรภ์เพราะอาจทำให้เลือดออกไม่หยุดหรือมดลูกแตกได้
3.ผู้ที่ซื้อยาทำแท้งทางอินเทอร์เน็ตเสี่ยงได้รับยาปลอม ไม่ได้รับคำปรึกษาการใช้ยาและอาการข้างเคียงอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดปัญหาแท้งบุตรไม่สมบูรณ์ ตกเลือด ติดเชื้อในกระแสเลือด และเสียชีวิตได้

คำเตือน ไม่ควรซื้อยายุติการตั้งครรภ์มากินเอง ควรปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด ปรึกษาท้องไม่พร้อมได้ที่คลินิกเวชกรรม สวท โทร 1452 (ในวันและเวลาราชการ)

ที่มา : สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย (สวท) ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี https://bit.ly/3xnsiL4


สอบถาม
เพิ่มเติมกับ
แชทบอท