Facebook หมอชาวบ้าน Youtube หมอชาวบ้าน


โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

< กลับหน้าหลัก

7 ประโยชน์กระเจี๊ยบเขียว ที่คุณอาจไม่รู้


หมวดหมู่หลัก: ดูแลตัวเองและครอบครัว

หมวดหมู่ย่อย: อาหารเสริมสุขภาพ

11-02-2023 14:37

กระเจี๊ยบเขียว ประโยชน์ทางด้านคุณค่าทางโภชนาการหลายด้าน นิยมทานสดๆ หรือนำไปประกอบอาหารต่างๆ สารพัดเมนู ไม่ใช่แค่รสชาติที่ดี แต่ด้วยสรรพคุณของกระเจี๊ยบเขียวนี่ ที่ทำให้ใครต่อใครก็หามาทานกันมากมาย

ภาพประกอบเคส

กระเจี๊ยบเขียว ประโยชน์ทางด้านคุณค่าทางโภชนาการหลายด้าน นิยมทานสดๆ หรือนำไปประกอบอาหารต่างๆ สารพัดเมนู ไม่ใช่แค่รสชาติที่ดี แต่ด้วยสรรพคุณของกระเจี๊ยบเขียวนี่ ที่ทำให้ใครต่อใครก็หามาทานกันมากมาย

ประโยชน์ทางด้านคุณค่าทางโภชนาการ

กระเจี๊ยบเขียว มีคุณค่าทางโภชนาการหลายด้าน ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต เส้นใยโปรตีน โฟเลต แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และวิตามินซี อยู่ในปริมาณพอสมควร ที่สำคัญกระเจี๊ยบเขียวมีกลูตาไธโอน (glutathione) มีบทบาทสำคัญต่อการควบคุมสารอนุมูลอิสระในร่างกาย การสร้างสารซ่อมแซมเซลล์ ทำปฏิกิริยาขจัดสารพิษที่เกิดในร่างกาย และช่วยต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้กระเจี๊ยบเขียวยังเต็มไปด้วยเส้นใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ ซึ่งเป็นส่วนของพืชผักที่ร่างกายย่อยไม่ได้ และเส้นใยที่ละลายน้ำได้ เช่น เพกทิน (pectin) และเมือก (mucilage) ซึ่งเกิดจากสารประกอบ acetyated acidic polysaccharide และกรดกาแล็กทูโลนิก (galactulonic caid)

ประโยชน์ขั้นเทพของ “กระเจี๊ยบเขียว”

  1. ช่วยลดน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน และคนที่กำลังควบคุมน้ำตาล-น้ำหนัก
  2. ลดอาการท้องผูก เพราะมีเมือกที่ช่วยให้อุจจาระอ่อนตัวขึ้น และยังมีใยอาหารที่ดีต่อการขับถ่าย
  3. ลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย
  4. ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกระเพาะอาหาร เยื่อบุกระเพาะอาหารอักเสบ และลำอักเสบได้
  5. ใครที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอยู่แล้ว การทานกระเจี๊ยบเขียวพร้อมเมือกเหนียวๆ ใสๆ จะช่วยเข้าไปเคลือบแผลในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย
  6. ฝักกระเจี๊ยบต้มเกลืออ่อนๆ สามารถแก้อาการกรดไหลย้อนได้
  7. มีโฟเลตสูง ช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง และเป็นสิ่งจำเป็นต่อพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ ดังนั้นจึงเหมาะกับหญิงมีครรภ์

วิธีรับประทานกระเจี๊ยบเขียว
สามารถหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ทานสดๆ ได้เลย หรือจะนำไปประกอบอาหารกับเมนูอื่นๆ นำไปย่างด้วยไฟอ่อนๆ หรือจะทานผสมกับน้ำผึ้ง น้ำมะนาว หรือไอศกรีมก็ได้

ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
https://sasuksure.anamai.moph.go.th/content.php?id=494


สอบถาม
เพิ่มเติมกับ
แชทบอท