Facebook หมอชาวบ้าน Youtube หมอชาวบ้าน


โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน

< กลับหน้าหลัก

วางแผนการเงินหลังเกษียณ ให้มีใช้ ไม่ขัดสน


หมวดหมู่หลัก: ผู้สูงวัย

หมวดหมู่ย่อย: อื่นๆ

11-02-2023 11:59

จากจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น หากผู้สูงอายุมีเงินบำเหน็จบำนาญหรือมีสวัสดิการเพียงพอรองรับชีวิตหลังเกษียณอายุได้ ก็คงไม่เกิดปัญหาเท่าใดนัก เพราะหากไม่ใช่ข้าราชการหรือเป็นลูกจ้างบริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงิน มีผลตอบแทนให้หลังจากเกษียณอายุแล้ว ผู้สูงอายุเหล่านี้จะลำบากไม่น้อย เนื่องจากประชากรโดยส่วนใหญ่ยังมีอาชีพอิสระหรือหาเช้ากินค่ำ การเก็บออมเงินไว้ใช้เมื่อคราวแก่ชราด้วยการฝากเงินกับกองทุนต่าง ๆ หรือการเก็บออมเงินไว้เองก็คงทำได้ยาก ฉะนั้นการเตรียมพร้อมวางแผนการเงินหลังเกษียณ อยู่เสมอ ๆ จะช่วยให้ผู้สูงอายุไม่เกิดความลำบากขัดสน และไม่เป็นภาระกับตนเองและลูกหลานเมื่อตอนแก่ชรา

ภาพประกอบเคส

จากจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น หากผู้สูงอายุมีเงินบำเหน็จบำนาญหรือมีสวัสดิการเพียงพอรองรับชีวิตหลังเกษียณอายุได้ ก็คงไม่เกิดปัญหาเท่าใดนัก เพราะหากไม่ใช่ข้าราชการหรือเป็นลูกจ้างบริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงิน มีผลตอบแทนให้หลังจากเกษียณอายุแล้ว ผู้สูงอายุเหล่านี้จะลำบากไม่น้อย เนื่องจากประชากรโดยส่วนใหญ่ยังมีอาชีพอิสระหรือหาเช้ากินค่ำ การเก็บออมเงินไว้ใช้เมื่อคราวแก่ชราด้วยการฝากเงินกับกองทุนต่าง ๆ หรือการเก็บออมเงินไว้เองก็คงทำได้ยาก ฉะนั้นการเตรียมพร้อมวางแผนการเงินหลังเกษียณ อยู่เสมอ ๆ จะช่วยให้ผู้สูงอายุไม่เกิดความลำบากขัดสน และไม่เป็นภาระกับตนเองและลูกหลานเมื่อตอนแก่ชรา

การวางแผนการเงิน
การวางแผนทางการเงิน ต้องทำก่อนวัยเกษียณ ไม่ใช่เกษียณแล้วจึงมาเริ่มทำ เพราะอาจจะทำให้สายเกินไป ควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวัยกลางคนหรือวัยทำงานขณะที่ยังเป็นหนุ่มสาวก็ตาม คือ การเก็บออมเงิน ไม่ว่าจะฝากประจำ หรือทำประกันเงินออมระยะยาวประมาณ 20 ปีขึ้นไป หรือเลือกทำประกันเงินออมตามแผนที่ทางธนาคารต่าง ๆ มีให้เลือก เช่น เงินออมหลังเกษียณ ที่มีไว้บริการ ก็จะทำให้เกิดการเก็บออมเงินในระยะยาว

การเก็บเงินระยะยาวเป็นอีกทางเลือกหนึ่งทำให้เกิดความสบายใจได้ โดยเฉพาะคนที่มีอาชีพอิสระ ทางรัฐบาลก็มีหลายทางโครงการที่ออกมารองรับให้มีการเก็บออมเงิน เพื่อให้มีเงินก้อนหลังอายุ 60 ปี หากใครที่อยากจะออมเงินธรรมดา ๆ โดยไม่ต้องทำโครงการอะไรก็สามารถทำได้ ไม่ว่าคุณจะหยอดกระปุกออมสิน จะนำเงินฝากธนาคารจากบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปก็ดี แต่มีข้อแม้ว่า ให้แยกบัญชีเก็บออกจากบัญชีปกติ แล้วห้ามทำบัตรเอทีเอ็ม ทำให้ถอนเงินได้ง่าย

ทำบัญชีรายรับรายจ่าย
เมื่อถึงวัยเกษียณแล้ว อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจว่าเงินก้อนที่ได้รับจากกองทุนต่าง ๆ ก็ดี หรือจากธนาคารที่ตนฝากไว้นั้นจะมีใช้ได้ตลอดไป เพราะหากตราบใดที่จำนวนเงินไม่งอกเงย แล้วมีแต่ใช้ไปเรื่อย ๆ ก็จะหมด ฉะนั้นควรจะทำบัญชีรายจับรายจ่ายให้ละเอียด ว่าในแต่ละเดือนต้องใช้อะไรบ้างที่จำเป็น เผื่อค่ากิน ค่าอยู่ ค่าน้ำค่าไฟ โดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาล หากใครที่ทำประกันสุขภาพไว้ก็ไม่น่าเป็นห่วงนัก แต่ถ้าใครที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกัน การใช้ระบบประกันสุขภาพของรัฐก็เป็นอีกหนทางหนึ่งทำให้ลดค่าใช้จ่ายได้ แต่ทว่า การเก็บเงินไว้สำหรับค่ารักษาพยาบาลเผื่อฉุกเฉิน หรือขาดเหลืออะไร ก็จะได้ไม่เกิดปัญหาทีหลัง โดยเฉพาะคนที่ไม่มีลูกหลานเลี้ยงดู

แบ่งเงินก้อนจำนวนหนึ่งลงทุนที่ให้ผลกำไรแน่นอน
หลังเกษียณอายุแล้ว อาจจะแบ่งเงินบางส่วนที่ตนฝากไว้ก่อนหน้านี้ มาฝากในลักษณะของกองทุนรวม พันธบัตรรัฐบาล หรือ การซื้อสลากออมสิน สลาก ธกส. ก็ทำให้ต่อยอดดอกผลได้ หรือใครที่มีประกันเงินออมแล้วจะฝากต่อไป ก็ได้เช่นกัน เพราะในกรณีที่มีลูกหลานแล้วอยากจะเก็บไว้ให้ เมื่อตนเสียชีวิตไป ก็สามารถทำได้ ซึ่งจะมีหลากหลายโครงการ หลายรูปแบบ

หากใครที่ชอบเล่นหุ้น อาจจะยั้ง ๆ ใจไว้หน่อยเพราะความเสี่ยงสูง ฉะนั้นเงินจำนวนนี้จึงควรลงทุนกับเงินออมที่ให้ดอกผลแน่นอน หรือเงินปันผลที่ชัดเจน

ทำอาชีพเล็ก ๆ น้อย ๆ
หลังเกษียณอายุ หลายคนไม่อยากอยู่เฉย ๆ อยากจะทำอาชีพอย่างใดอย่างหนึ่ง ฉะนั้นการประกอบอาชีพ ก็เป็นการต่อยอดให้เกิดรายได้อีกทางหนึ่ง แต่ควรศึกษาให้ดี และไม่ควรจะลงทุนกับการประกอบการที่เสี่ยงมาก ๆ เพราะมีสิทธิ์ขาดทุนสูง อาจจะทำเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อแก้เหงาหรือคลายเครียดจะดีกว่า แล้วเก็บออมเงินไว้ เช่น อาจจะทำขนมขายเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้กำไรนิดหน่อย แต่ต้องไม่ขาดทุน

ใช้เงินเท่าที่จำเป็นมากที่สุด
ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น พวกเหล้า บุหรี่ หากใครยังที่เลิกไม่ได้ก็ควรเลิก เนื่องจากของเหล่านี้นอกจากจะทำให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์แล้วยังทำลายสุขภาพอีกด้วย เพราะหากไม่รักษาสุขภาพให้แข็งแรง แล้วจะต้องนำเงินมาใช้จ่ายกับการรักษาโรคภัยเจ็บ

ก่อนจะเกษียณอายุต้องเคลียร์ปัญหาต่าง ๆ ให้เสร็จสิ้น
ไม่ว่าจะเป็นผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือภาระอื่น ๆ เพราะต้องระลึกอยู่เสมอว่า หลังเกษียณไปแล้วตนเองจะทำงานได้น้อยลง ดังนั้นควรจะสะสางหนี้สินต่าง ๆ ให้หมด หรือถ้าใครที่คิดจะนำเงินก้อนหลังเกษียณอายุมาใช้หนี้สินต่าง ๆ ก็ควรคำนวณดูว่า เมื่อใช้หนี้แล้วจะเหลือเงินเท่าไหร่ เพียงพอต่อการดำรงชีวิตหรือไม่ แต่ในทางที่ดีเคลียร์ปัญหาหนี้สินให้หมดก่อนอายุ 60 ปีจะดีที่สุด

ที่มา : กลุ่มเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพเครือข่าย กองส่งเสริมศักยภาพผู้สูงอายุ
https://bit.ly/3DZ3NHD


สอบถาม
เพิ่มเติมกับ
แชทบอท